Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Physical Sciences and Mathematics Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Chulalongkorn University

Discipline
Keyword
Publication Year
Publication
Publication Type

Articles 931 - 960 of 2268

Full-Text Articles in Physical Sciences and Mathematics

การประเมินการส่งผ่านข้อมูลส่วนตัวของเเอปพลิเคชันโดยวิเคราะห์จากนโยบายความเป็นส่วนตัว, เมธัส นาคเสนีย์ Jan 2019

การประเมินการส่งผ่านข้อมูลส่วนตัวของเเอปพลิเคชันโดยวิเคราะห์จากนโยบายความเป็นส่วนตัว, เมธัส นาคเสนีย์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

โมไบล์เเอปพลิเคชันในปัจจุบันได้ขอเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการเพื่อที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาการให้บริการ เช่น ข้อมูลส่วนตัว อีเมล ซึ่งการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้มีทั้งจุดประสงค์ในการใช้ข้อมูลในทางที่ดีเเละไม่ดี จึงเป็นเรื่องที่ผู้ใช้บริการควรตระหนักถึง ทั้งนี้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบรายละเอียดการนำข้อมูลไปใช้จากเเหล่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ได้เเก่ นโยบายความเป็นส่วนตัว เเต่เนื่องจากนโยบายความเป็นส่วนตัวมีข้อความที่ยาวเเละทำความเข้าใจได้ยาก ผู้ใช้บริการอาจพลาดส่วนสำคัญจากการอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ ดังนั้นวิทยานิพนธ์นี้จึงได้ตั้งข้อสมมุติฐานเพื่อทำการพิสูจน์สมมุติฐานว่าการประเมินการส่งผ่านข้อมูลส่วนตัวของเเอปพลิเคชันสามารถวิเคราะห์ได้จากข้อความในนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือไม่ โดยการใช้การเรียนรู้ด้วยเครื่องเข้ามาช่วยเพื่อที่จะประเมินการส่งผ่านของข้อมูลส่วนตัวเเทนการอ่านจากนโยบายความเป็นส่วนตัว


เครื่องมือทดสอบแบบจำลองบีพีเอ็มเอ็นด้วยวีคมิวเทชัน, ชาตรี งามเบญจวงศ์ Jan 2019

เครื่องมือทดสอบแบบจำลองบีพีเอ็มเอ็นด้วยวีคมิวเทชัน, ชาตรี งามเบญจวงศ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

แบบจำลองบีพีเอ็มเอ็นเป็นแบบจำลองที่ใช้สำหรับอธิบายกระบวนการทางธุรกิจ และถูกพัฒนาให้สามารถประมวลผลได้บนเครื่องประมวลผลแบบจำลอง จึงจำเป็นต้องทดสอบความถูกต้องของแบบจำลองตามเงื่อนไขทางธุรกิจ นักทดสอบจึงได้นำเสนอวิธีการสร้างกรณีทดสอบที่แตกต่างกัน รวมถึงใช้การทดสอบมิวเทชัน เพื่อประเมินคุณภาพของกรณีทดสอบ แต่จุดด้อยของการทดสอบมิวเทชันยังต้องใช้แรงงาน และทรัพยากรที่ค่อนข้างสูง งานวิจัยนี้ได้นำเสนอการนำตัวดำเนินการมิวเทชันของแบบจำลองบีพีเอ็มเอ็นมาประยุกต์กับการทดสอบวีคมิวเทชัน และยังเสนอเครื่องมือวีมูบีพีเอ็มเอ็นที่ใช้ในการสร้างมิวแตนท์ และทดสอบมิวแตนท์ได้อย่างอัตโนมัติกับเครื่องประมวลผลแบบจำลองบีพีเอ็มเอ็น โดยเครื่องมือสามารถรายงานผลลัพธ์ ได้แก่ จำนวนมิวแตนท์ที่กำจัดได้ จำนวนมิวแตนท์ที่ยังคงอยู่ เวลาที่ใช้ในการทดสอบ คะแนนมิวเทชัน และประสิทธิภาพของกรณีทดสอบ หลังจากผู้วิจัยได้ทดสอบเครื่องมือกับแบบจำลองตัวอย่างทั้งหมด 8 แบบจำลอง เครื่องมือสามารถสร้างมิวแตนท์ได้ครบถ้วน 25 ตัวดำเนินการ และทดสอบกับเครื่องประมวลผลแบบจำลองได้ทั้งหมด 13 ตัวดำเนินการ


การสร้างแบบจำลองเชิงรูปนัยของเครือข่ายแถวคอยแบบหลายหน่วยบริการ โดยใช้สโตแคสติกเพทริเน็ตส์, พิมพร บุญอินทร์ Jan 2019

การสร้างแบบจำลองเชิงรูปนัยของเครือข่ายแถวคอยแบบหลายหน่วยบริการ โดยใช้สโตแคสติกเพทริเน็ตส์, พิมพร บุญอินทร์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระบบเครือข่ายแถวคอยเชิงรูปนัยครอบคลุมแบบจำลองระดับสูง เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของความพร้อมใช้งานของลูกค้าที่เข้ามารับบริการ และทรัพยากรที่ให้บริการ ผู้ออกแบบกระบวนการทางธุรกิจสามารถปรับการสร้างเครือข่ายแถวคอยเพื่อรับมือกับข้อจำกัดด้านเวลาในลักษณะแบบสุ่ม ผู้วิจัยตั้งเป้าหมายที่จะจัดทำสโตแคสติกแถวคอยเชิงรูปนัยแบบหลายหน่วยบริการในวิทยานิพนธ์นี้ เพื่อรองรับระบบเครือข่ายแถวคอยที่ซับซ้อนแบบหลายหน่วยบริการ พฤติกรรมการให้บริการแบบสุ่มจะถูกพิจารณาและแปลงเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ ชุดของกฎการจับคู่ถูกกำหนดเพื่อแปลงเครือข่ายแถวคอยแบบหลายหน่วยบริการเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ อีกทั้งผู้วิจัยได้สาธิตการสร้างกราฟมาร์คอฟพร้อมการแจกแจงความน่าจะเป็นของเครือข่ายแถวคอย


Holographic Renormalization Group Flows From N=2 4d Gauged Supergravity, Nutthapat Loonrasri Jan 2019

Holographic Renormalization Group Flows From N=2 4d Gauged Supergravity, Nutthapat Loonrasri

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In quantum field theories, interactions between particles can be studied by using Feynman diagrams. Calculating loop Feynman diagrams results in infinite values. This problem can be solved by using a process of renormalization that is the method of removing an infinity. Changing a physical system under different scales forms a group called renormalization group. Some renormalization group flows (RG flows) describe deformations of a conformal field theory (CFT) to another conformal or non-conformal theories, resulting in the deformations of a UV conformal fixed point to another fixed point or a non-conformal phase in the IR. In this work, we study …


เครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้งานเชิงฮิวริสติกสำหรับแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เพื่อเด็กอายุ 6 – 12 ปี, ณัฏฐิกา ศรีเกียรติวงศ์ Jan 2019

เครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้งานเชิงฮิวริสติกสำหรับแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เพื่อเด็กอายุ 6 – 12 ปี, ณัฏฐิกา ศรีเกียรติวงศ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การออกแบบโมไบล์แอปพลิเคชันสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากการออกแบบโมไบล์แอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่เนื่องจากเด็กมีพฤติกรรมและพัฒนาการที่ต่างกับผู้ใหญ่ และยังต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้และความสามารถในการใช้งานอีกด้วย การประเมินเชิงฮิวริสติกเป็นวิธีการประเมินความสามารถในการใช้งานส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ที่ได้รับความนิยม โดยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความสามารถในการใช้งานทำการเปรียบเทียบการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้กับแนวทางการออกแบบหรือฮิวริสติกว่ามีความขัดแย้งกับแนวทางการออกแบบแต่ละข้อหรือไม่ แต่เนื่องจากแนวทางการออกแบบมีเป็นจำนวนมากจึงทำให้เป็นภาระในการประเมิน ทำให้บ่อยครั้งเกิดการตรวจพบข้อผิดพลาดได้ไม่ครบถ้วน จึงทำให้การประเมินเชิงฮิวริสติกมีประสิทธิภาพไม่ดีนัก งานวิจัยนี้ได้ทำการรวบรวมและปรับปรุงแนวทางการออกแบบความสามารถในการใช้งานเชิงฮิวริสติกสำหรับโมไบล์แอปพลิเคชันเพื่อเด็กอายุ 6–12 ปี มาจากหลายแหล่ง แล้วนำไปประเมินความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้สำหรับโมไบล์แอปพลิเคชัน แนวทางการออกแบบที่ได้จะแบ่งออกเป็น 12 หมวด รวมทั้งหมด 94 รายการ จากนั้นได้ทำการพัฒนาเครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้งาน ซึ่งสามารถประเมินจากรหัสต้นฉบับของแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ตามแนวทางการออกแบบเฉพาะในส่วนที่สามารถตรวจสอบได้อย่างอัตโนมัติจำนวน 25 รายการ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประเมินในการประเมินความสามารถในการใช้งานส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ จากการทดสอบการประเมินความสามารถในการใช้งานของ 5 แอปพลิเคชันสำหรับเด็กบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ตามรายการประเมิน 25 รายการที่สามารถตรวจสอบได้อย่างอัตโนมัติพบว่า เครื่องมือสามารถตรวจหาข้อผิดพลาดในการออกแบบที่ผู้ประเมินทั้งที่เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้และที่เป็นนักพัฒนาแอปพลิเคชันไม่สามารถตรวจพบได้ ในขณะที่เครื่องมือเองยังมีข้อจำกัดที่ทำให้ตรวจไม่พบข้อผิดพลาดที่ผู้ประเมินตรวจพบได้เช่นกัน ถึงอย่างนั้นก็ตามค่าเฉลี่ยของจำนวนจุดที่พบข้อผิดพลาดในการออกแบบเมื่อประเมินด้วยเครื่องมือมีค่ามากกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ประเมินทั้งสองกลุ่มที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และจากการทดสอบประสิทธิภาพด้านเวลายังพบว่า เครื่องมือสามารถช่วยลดเวลาในการประเมินได้อีกด้วย


ตัวสร้างสตับและไดร์เวอร์สำหรับการทดสอบรวมของคลาสจากแผนภาพลำดับและแผนภาพคลาส, พีรวุฒิ เหลืองเรืองโรจน์ Jan 2019

ตัวสร้างสตับและไดร์เวอร์สำหรับการทดสอบรวมของคลาสจากแผนภาพลำดับและแผนภาพคลาส, พีรวุฒิ เหลืองเรืองโรจน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ นักเขียนโปรแกรมแต่ละคนอาจจะเขียนโปรแกรมแต่ละส่วนเสร็จไม่พร้อมกัน หากต้องรอนักเขียนโปรแกรมทุกคนเขียนโปรแกรมเสร็จสิ้นจึงเริ่มการทดสอบจะเป็นการเสียเวลา การทดสอบซอฟต์แวร์จึงเริ่มทันทีเมื่อรหัสต้นฉบับบางส่วนพัฒนาเสร็จสิ้น ซึ่งสตับและไดร์เวอร์จะถูกนำมาใช้แทนมอดูลที่ยังพัฒนาไม่เสร็จ อย่างไรก็ตามสตับและไดร์เวอร์เป็นรหัสต้นฉบับเสียเปล่าที่ถูกสร้างเพื่อใช้เพียงครั้งเดียวและไม่สามารถนำมาใช้กับโครงการอื่น ๆ ได้ การสร้างสตับและไดร์เวอร์จึงควรใช้ความพยายามในการพัฒนาให้น้อยที่สุด งานวิจัยก่อนหน้าได้นำเสนอตัวสร้างสตับและไดร์เวอร์โดยใช้ข้อมูลจากแผนภาพลำดับและแผนภาพคลาส ซึ่งมีข้อจำกัดด้านการสร้างสตับและไดร์เวอร์สำหรับคลาสนามธรรม คลาสภายใน และอินเตอร์เฟส รวมทั้งสามารถเลือกคลาสภายใต้การทดสอบได้เพียงคลาสเดียวและไม่สามารถสร้างกรณีทดสอบได้ โดยงานวิจัยนี้จะพัฒนาตัวสร้าง สตับและไดร์เวอร์ที่แก้ไขข้อจำกัดของงานวิจัยดังกล่าว ผู้ทดสอบสามารถสร้างสตับและไดร์เวอร์สำหรับการทดสอบรวมของคลาสโดยนำเข้าแผนภาพลำดับและแผนภาพคลาสในรูปเอกซ์เอ็มแอล จากนั้นตัวสร้างจะประมวลผลแผนภาพและสร้างกราฟการเรียกใช้งานขึ้นมา ผู้ทดสอบสามารถเลือกกคลาสภายใต้การทดสอบได้ตั้งแต่หนึ่งคลาสขึ้นไป และตัวสร้างจะรวบรวมสตับและไดร์เวอร์ที่ต้องใช้ทดสอบคลาสที่เลือกและสร้างรหัสต้นฉบับของสตับและไดร์เวอร์ขึ้นมาเพื่อทดสอบคลาสเหล่านั้น นอกจากนี้ตัวสร้างจะสุ่มค่าของข้อมูลทดสอบได้แก่ข้อมูลนำเข้าและผลลัพธ์ที่คาดหวังลงไปในไดร์เวอร์ จากนั้นตัวสร้างจะส่งออกไฟล์รหัสต้นฉบับเพื่อการทดสอบรวมคลาสดังกล่าว ซึ่งสตับและไดร์เวอร์ที่สร้างขึ้นมาจะนำไปทดสอบรวมกับกรณีศึกษา 3 กรณี ซึ่งพบว่าสตับและไดร์เวอร์ที่ถูกสร้างขึ้นสามารถแทนที่คลาสที่ยังพัฒนาไม่เสร็จได้


การแปลงกระแสงานยอร์ลที่มีเงื่อนไขเวลาไปเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ทั่วไป, สุพัตรา บุญญะวัตร Jan 2019

การแปลงกระแสงานยอร์ลที่มีเงื่อนไขเวลาไปเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ทั่วไป, สุพัตรา บุญญะวัตร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในปัจจุบันโลกทางธุรกิจมีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการทางธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนและการบริหารจัดการเวลา ทรัพยากร รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยในการจำลองกระบวนการทางธุรกิจ เช่น แผนภาพบีพีเอ็มเอ็น บีเพล และกระแสงานยอว์ล เป็นต้น แต่เครื่องมือดังกล่าวยังไม่สามารถระบุเวลาเฉลี่ยของแต่ละงานในการพัฒนาระบบได้ งานวิทยานิพนธ์นี้ได้เสนอการแปลงกระแสงานยอว์ลไปเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตแบบทั่วไป ซึ่งในงานวิทยานิพนธ์นี้เลือกใช้กระแสงานยอว์ลมาใช้ในการสร้างแบบจำลองกระบวนการทางธุรกิจเพราะกระแสงานยอว์ลมีเครื่องมือ YAWL Editor ที่มีฟีเจอร์ในการตรวจสอบคุณสมบัติของแบบจำลองที่สร้างขึ้น เช่น ตรวจสอบสภาวะติดตายของระบบ เป็นต้น ถึงแม้ว่ากระแสงานยอว์ลจะมีฟีเจอร์ที่ดีดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่กระแสงานยอว์ลไม่สามารถวิเคราะห์ข้อจำกัดด้านเวลาได้ ดังนั้นในงานวิทยานิพนธ์นี้จึงได้เสนอการแปลงกระแสงานยอว์ลที่มีเงื่อนไขของเวลาไปเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ทั่วไป โดยผู้วิจัยจะเพิ่มค่าเฉลี่ยของเวลาเข้าไปในสัญลักษณ์ของกระแสงานยอว์ลมาตรฐานหลังจากที่แปลงเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ทั่วไปแล้ว โดยใช้การวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเวลาในรูปแบบความน่าจะเป็นที่มีการแจกแจงแบบเอ็กโพเนนเชียลในการสาธิตการใช้งานโมเดล


การเตรียมและสมบัติของเซลลูโลสจากผักตบชวา/ว่านหางจระเข้ไฮโดรเจล, เฟรินส์ ภู่ทอง Jan 2019

การเตรียมและสมบัติของเซลลูโลสจากผักตบชวา/ว่านหางจระเข้ไฮโดรเจล, เฟรินส์ ภู่ทอง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในงานวิจัยนี้ได้เตรียมเซลลูโลสไฮโดรเจลจากสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์/ยูเรียโดยใช้เซลลูโลสจากผักตบชวาที่สกัดได้จากกระบวนการทางเคมีและเพิ่มเสถียรภาพด้วยบอแรกซ์ซึ่งเป็นสารเชื่อมขวางที่สามารถละลายได้ในระบบ จากผลการทดลองพบว่าความหนืดของสารละลาย การดูดซึมน้ำ การส่องผ่านของแสง และร้อยละความเครียดจากการกดของไฮโดรเจลเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเป็นรูพรุนภายในไฮโดรเจล การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการเชื่อมขวางของสายโซ่เซลลูโลสด้วยบอแรกซ์ นอกจากนี้การเติมบอแรกซ์ยังส่งผลให้ไฮโดรเจลมีสมบัติการต้านเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส และเนื่องด้วยเซลลูโลสไฮโดรเจลที่เติมบอแรกซ์ปริมาณ 3 เท่า (ไฮโดรเจล 1/3) มีการดูดซึมน้ำและร้อยละความเครียดจากการกดที่เหมาะสมจึงถูกเลือกเพื่อเตรียมเซลลูโลส/ว่านหางจระเข้ไฮโดรเจลโดยการแช่ในสารละลายว่านหางจระเข้ที่ความเข้มข้นร้อยละ 5 และ 10 ของว่านหางจระเข้ในน้ำ พบว่าการแช่เซลลูโลสไฮโดรเจลในสารละลายว่านหางจระเข้นั้นไม่ส่งผลต่อสมบัติการดูดซึมน้ำและร้อยละความเครียดจากการกด นอกจากนี้สมบัติการต้านเชื้อแบคทีเรียของเซลลูโลสไฮโดรเจลไม่ได้รับการปรับปรุงโดยการแช่ในสารละลายว่านหางจระเข้


การผลิตน้ำมันชีวภาพจากไพโรไลซิสของไม้ยางพาราและเหง้ามันสำปะหลังโดยใช้นิกเกิลโดโลไมต์ในเครื่องปฏิกรณ์เบดนิ่ง, กิตติเดช ประเสริฐทวีพร Jan 2019

การผลิตน้ำมันชีวภาพจากไพโรไลซิสของไม้ยางพาราและเหง้ามันสำปะหลังโดยใช้นิกเกิลโดโลไมต์ในเครื่องปฏิกรณ์เบดนิ่ง, กิตติเดช ประเสริฐทวีพร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

กระบวนการผลิตน้ำมันชีวภาพจากการไพโรซิสของไม้ยางพาราและเหง้ามันสำปะหลังในเครื่องปฏิกรณ์เบดนิ่ง ถูกใช้ในการศึกษาหาภาวะดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ปริมาณผลได้ที่ดีที่สุดสำหรับน้ำมันชีวภาพ จากการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา ตัวอย่างเช่น FCC, โดโลไมต์ และนิกเกิลโดโลไมต์ โดยทดลองในเครื่องปฏิกรณ์เบดนิ่ง มีปัจจัยต่างๆประกอบด้วย ขนาดอนุภาคตั้งแต่ 0.250-2.000 มิลลิเมตร อุณหภูมิ 400-600 องศาเซลเซียส เวลาที่ 45-90 นาที และ อัตราการไหลไนโตรเจนที่ 60-180 มิลลิลิตรต่อนาที ผลการศึกษาพบว่าภาวะดำเนินการที่ดีที่สุดคือ ขนาดอนุภาคเฉลี่ยที่ 0.355-0.710 มิลลิเมตร และ 0.850-2.000 มิลลิเมตร ตามลำดับ ที่อุณหภูมิ 500 องศาเซลเซียส เวลาในการทำปฏิกิริยา 45 นาที และอัตราการไหลของแก๊สไนโตรเจนที่ 60 มิลลิลิตรต่อนาที ซึ่งภาวะดำเนินการดังกล่าวให้ปริมาณร้อยละผลได้ของน้ำมันชีวภาพร้อยละ 39.48 และ 40.39 ของไม้ยางพาราและเหง้ามันสำปะหลังตามลำดับ ซึ่งเมื่อศึกษาอิทธิพลของตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการไพโรไรซิสพบว่าปริมาณน้ำมันชีวะภาพลดลงเมื่อตัวเร่งปฏิกิริยาถูกเติมเข้าไปในระบบ ในขณะที่ร้อยละผลได้ของปริมาณแก๊สเพิ่มขึ้นแก๊สสูงสุดโดยวัดได้ที่ร้อยละ 39.30 และ 33.37 ของไม้ยางพาราและเหง้ามันสำปะหลังตามลำดับ นอกจากนี้พบว่าในน้ำมันชีวภาพมีองค์ประกอบหลักคือ แอลเคน อะโรมาติก สารประกอบไนโตรเจเนต และสารประกอบออกซิเจเนต ในขณะที่แก๊สมีองค์ประกอบของแก๊สมีเทน เป็นองค์ประกอบหลัก


การเตรียมและการตอบสนองโดยการเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบระดับนาโนเมตรพอลิไดแอเซทิลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์, ณัฐกานต์ ประกอบแก้ว Jan 2019

การเตรียมและการตอบสนองโดยการเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบระดับนาโนเมตรพอลิไดแอเซทิลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์, ณัฐกานต์ ประกอบแก้ว

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้ศึกษาวิธีการสังเคราะห์ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์และเตรียมเป็นวัสดุเชิงประกอบระดับนาโนเมตรพอลิไดแอซิทิลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์ ในการสังเคราะห์ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์ จากซิงก์แอซีเทตดีไฮเดรตและเททระแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ เพนทะไฮเดรต โดยใช้ระยะเวลาในการทำปฏิกิริยาตั้งแต่ 1 ถึง 2880 นาที พบว่าจะได้ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์ที่มีขนาดอนุภาค 2 ถึง 6 นาโนเมตร จากนั้นนำมาเตรียมเป็นวัสดุเชิงประกอบระดับนาโนเมตรพอลิไดแอซิทิลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์ โดยใช้ 10,12-pentacosadiynoic acid (PCDA) เป็นไดแอเซทิลีนมอนอเมอร์ และทำการทดสอบสมบัติการตอบสนองโดยการเปลี่ยนสีของวัสดุเชิงประกอบต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ค่าความเป็นกรด-เบส และการเติมกรด/เบสอินทรีย์ จากการศึกษาพบว่า พอลิไดแอซิทีลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์เกิดการเปลี่ยนสีจากสีน้ำเงินเป็นม่วงที่อุณหภูมิต่ำกว่าพอลิไดแอซิทีลีน/ซิงก์ออกไซด์(65 นาโนเมตร) ที่มีการศึกษามาก่อนหน้านี้ โดยพอลิไดแอซิทีลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์เกิดการเปลี่ยนสีที่อุณหภูมิ 65 ถึง 70 องศาเซลเซียส และเป็นการเปลี่ยนสีแบบผันกลับได้ ในขณะที่พอลิไดแอซิทีลีน/ซิงก์ออกไซด์(65 นาโนเมตร) เกิดการเปลี่ยนสีที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส และพบว่า พอลิไดแอซิทีลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์ มีความไวในการตอบสนองต่อกรดไฮโดรคลอริก โซเดียมไฮดรอกไซด์ กรดซาลิซิลิก และออกทิลเอมีน สูงกว่าอีกด้วย ซึ่งจากการวิเคราะห์โครงสร้างบ่งชี้ว่า สายโซ่หลักคอนจูเกตของพอลิไดแอซิทีลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์มีความผ่อนคลายมากกว่า และปฏิสัมพันธ์อิออนิกระหว่างส่วนหัวของพอลิไดแอซิทีลีนและพื้นผิวอนุภาคซิงก์ออกไซด์มีความแข็งแรงน้อยกว่า ดังนั้นพอลิไดแอซิทีลีน/ผลึกนาโนซิงก์ออกไซด์จึงถูกรบกวนจากสิ่งกระตุ้นภายนอกได้ในระดับที่สูงกว่าพอลิไดแอซิทีลีน/ซิงก์ออกไซด์(65 นาโนเมตร)


การเตรียมสีน้ำทาภายนอกที่มีสมบัติสะท้อนความร้อนและเป็นฉนวนความร้อนโดยใช้ผงอะลูมิเนียมและนาโนเซลลูโลส, ธนิกานต์ ขุนภักดี Jan 2019

การเตรียมสีน้ำทาภายนอกที่มีสมบัติสะท้อนความร้อนและเป็นฉนวนความร้อนโดยใช้ผงอะลูมิเนียมและนาโนเซลลูโลส, ธนิกานต์ ขุนภักดี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในงานวิจัยนี้ได้เตรียมสีน้ำทาภายนอกที่ประกอบด้วยผงอะลูมิเนียมและนาโนเซลลูโลส (ทั้งนาโนเซลลูโลสที่ได้จากแบคทีเรียซึ่งเตรียมผ่านวิธีสะโคบี (SCOBY) และนาโนเซลลูโลสจากพืช) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงสมบัติการสะท้อนความร้อนและสมบัติการเป็นฉนวนความร้อนของสีทาภายนอก ซึ่งสีที่เตรียมได้จะนำมาเคลือบบนกระเบื้องแผ่นเรียบและทิ้งไว้ให้สีแห้งสนิทเป็นระยะเวลา 168 ชั่วโมงก่อนนำมาทดสอบ ผลการทดสอบพบว่าสีที่ผสมระหว่างผงอะลูมิเนียมและนาโนเซลลูโลสมีประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนและการเป็นฉนวนความร้อนที่ไม่ดีเนื่องจากการออกแบบการทดลองที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงมีการศึกษานาโนเซลลูโลสที่เหมาะสมเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นฉนวนในการทดสอบนี้ โดยศึกษาทั้งนาโนเซลลูโลสจากแบคทีเรียและจากพืช จากนั้นจึงเตรียมสีโดยเติมนาโนเซลลูโลสจากแบคทีเรียที่เตรียมผ่านวิธีสะโคบีลงในสีร้อยละ 0.19 กรัมโดยน้ำหนัก ร้อยละ 0.38 กรัมโดยน้ำหนัก ร้อยละ 0.58 กรัมโดยน้ำหนัก และร้อยละ 0.82 กรัมโดยน้ำหนัก และเติมนาโนเซลลูโลสจากพืชที่ร้อยละ 0.50 กรัมโดยน้ำหนัก ร้อยละ 1.01 กรัมโดยน้ำหนัก ร้อยละ 1.51 กรัมโดยน้ำหนัก และร้อยละ 2.16 กรัมโดยน้ำหนัก ทดลองเทียบกับสีสูตรมาตรฐานที่ไม่ได้มีการเติมนาโนเซลลูโลส ผลทดสอบพบว่าค่าร้อยละความความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างแผ่นทดสอบด้านบนที่ได้รับความร้อนจากหลอดไฟโดยตรงและด้านล่างแผ่นทดสอบของสีสูตรมาตรฐานมีค่าเท่ากับร้อยละ 3.67 ส่วนสีที่มีการเติมนาโนเซลลูโลสจากแบคทีเรียซึ่งเตรียมผ่านวิธีสะโคบีมีค่าความแตกต่างร้อยละ 8.16 ร้อยละ 6.21 ร้อยละ 7.70 และ ร้อยละ 12.41 ตามลำดับ นาโนเซลลูโลสจากพืชมีค่าความแตกต่างร้อยละ 0.50 ร้อยละ 1.01 ร้อยละ 1.51 และร้อยละ 2.16 ตามลำดับ ส่วนสีกันความร้อนตามท้องตลาดมีค่าเท่ากับร้อยละ 8.24 ซึ่งจากผลการทดสอบพบว่าการเติมนาโนเซลลูโลสสามารถปรับปรุงสมบัติการเป็นฉนวนความร้อนได้เมื่อเทียบกับสีสูตรมาตรฐานปกติเนื่องมาจากสมบัติการนำความร้อนที่ต่ำของนาโนเซลลูโลส


สมบัติของพอลิแล็กทิกแอซิดผสมด้วยยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิด, ธมลวรรณ อุดมกิจปัญญา Jan 2019

สมบัติของพอลิแล็กทิกแอซิดผสมด้วยยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิด, ธมลวรรณ อุดมกิจปัญญา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วัตถุประสงค์ของงานนี้ คือ การปรับปรุงสมบัติเชิงกล และสมบัติทางความร้อนของพอลิแล็กทิกแอซิดด้วยการเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิด โดยยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิดถูกเตรียมจากน้ำยางธรรมชาติผ่านปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบอิมัลชัน โดยใช้กรดอะคริลิกร้อยละ 50, 70 และ 90 โดยน้ำหนักเนื้อยางแห้ง ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 ชั่วโมง จากวิเคราะห์ด้วยเทคนิคฟูเรียร์แทรนสฟอร์มสเปกโทรสโกปี พบว่า พอลิอะคริลิกแอซิดถูกกราฟต์อยู่บนสายโซ่ของยางธรรมชาติแล้ว จากนั้นยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิดที่เตรียมได้ถูกนำไปผสมกับพอลิแล็กทิกแอซิดที่ปริมาณต่างๆ (ร้อยละ 10, 20 ,30 และ 40 โดยน้ำหนัก) โดยใช้เครื่องผสมแบบปิด และขึ้นรูปเป็นชิ้นทดสอบด้วยเครื่องฉีดแบบ จากการทดสอบสมบัติเชิงกล พบว่าการเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกลงในพอลิแล็กทิกแอซิด ส่งผลต่อค่าความทนแรงกระแทก และการยืดตัว ณ จุดขาด โดยที่เมื่อมีปริมาณยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกเพิ่มขึ้น จะทำให้ค่าความทนแรงกระแทกและการยืดตัว ณ จุดขาด เพิ่มขึ้น แต่ความทนแรงดึง และยังส์มอดุลัสมีค่าลดลงเมื่อเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิก ดังนั้นพอลิเมอร์ผสม 70/30 พอลิแล็กทิกแอซิดผสมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิด70 มีความทนแรงกระแทกและการยืดตัว ณ จุดขาดสูงที่สุด (11.3 กิโลจูลต่อตารางเมตร และร้อยละ 11.05 ตามลำดับ) จากการทดสอบสมบัติทางความร้อน พบว่าการเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิดลงในพอลิแล็กทิกแอซิดส่งผลให้เสถียรภาพทางความร้อนของพอลิแล็กทิกแอซิดเพิ่มขึ้น โดยที่ปริมาณการเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิก ร้อยละ 40 จะทำให้พอลิเมอร์ผสมมีเสถียรภาพทางความร้อนดีที่สุด ส่วนพฤติกรรมทางความร้อนของพอลิเมอร์ผสมเมื่อเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิกแอซิดลงในพอลิแล็กทิกแอซิดนั้น พบว่าไม่ส่งผลต่ออุณหภูมิเปลี่ยนคล้ายแก้ว และอุณหภูมิการหลอมเหลวผลึก แต่ส่งผลให้อุณหภูมิการเกิดผลึกเย็นเพิ่มขึ้น และยังส่งผลให้ปริมาณผลึกลดลงเหลือ จากงานวิจัยนี้พบว่าการเติมยางธรรมชาติ-กราฟต์-พอลิอะคริลิก เป็นการช่วยปรับปรุงความเหนียว และเสถียรภาพทางความร้อนให้กับพอลิแล็กทิกแอซิด


การเตรียมฟิล์มพอลิเมอร์จากยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่ง, นัทรี ฉัตรยาลักษณ์ Jan 2019

การเตรียมฟิล์มพอลิเมอร์จากยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่ง, นัทรี ฉัตรยาลักษณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์ที่จะเตรียมแผ่นฟิล์มพอลิเมอร์ผสมจากยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่อัตราส่วนต่างๆ กันตั้งแต่ 100/0, 90/10, 80/20, 70/30, 60/40 และ 50/50 โดยการทดลองสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน สำหรับ 2 ส่วนแรก จะเป็นแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งทั้งที่เติมและไม่เติมกลีเซอรอล โดยส่วนแรกเตรียมได้จากการผสมสารแขวนลอยของน้ำแป้งกับน้ำยางธรรมชาติโดยจะเรียกว่า latex mixing จากนั้นทำให้แห้งแล้วนำไปผสมกับสารเคมียางในเครื่องผสมแบบสองลูกกลิ้ง ในขณะที่ส่วนที่สองยางธรรมชาติจะถูกผสมกับแป้งมันฝรั่งในเครื่องผสมแบบปิด โดยจะเรียกว่า dry mixing จากนั้นนำไปผสมกับสารเคมียางในเครื่องผสมแบบสองลูกกลิ้งต่อไป และในส่วนที่สามจะเป็นการเติมสารคู่ควบไซเลน Si-69 แทนกลีเซอรอล จากนั้นทำการขึ้นรูปตัวอย่างแผ่นฟิล์มเพื่อนำไปทดสอบสมบัติทางกายภาพ เชิงกลและความร้อนด้วยแม่พิมพ์แบบกดอัดที่อุณหภูมิ 155 oC จากการตรวจสอบแผ่นฟิล์มด้วยตาเปล่าจะเห็นได้ว่า แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ dry mixing เกิดการแยกเฟสระหว่างยางธรรมชาติและแป้งมันฝรั่งน้อยกว่าที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ latex mixing นอกจากนี้ยังพบว่าการเติมกลีเซอรอลช่วยลดการเกาะกลุ่มกันของแป้งมันฝรั่งได้ จากการทดสอบการบวมตัวในน้ำพบว่า การเติมแป้งมันฝรั่งทำให้แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งดูดซับน้ำได้และปริมาณการดูดซับน้ำเพิ่มขึ้นตามปริมาณแป้งที่เติม โดยที่อัตราส่วนยางธรรมชาติต่อแป้งมันฝรั่งเดียวกัน แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ latex mixing มีการดูดซับน้ำได้สูงกว่าแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งเตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ dry mixing และการดูดซับน้ำเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมกลีเซอรอล เมื่อทำการทดสอบสมบัติเชิงกล พบว่าการเติมแป้งมันฝรั่งทำให้แผ่นฟิล์มมีสมบัติเชิงกลลดลง ยิ่งเติมมากก็ยิ่งลดลงมาก แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ dry mixing มีความทนต่อแรงดึงและความต้านทานต่อการฉีกขาดสูงกว่าแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ latex mixing แต่ให้ความแข็งที่ต่ำกว่า การเติมกลีเซอรอลช่วยเพิ่มความทนต่อแรงดึงและความต้านทานต่อการฉีกขาดแต่ลดความแข็งของแผ่นฟิล์ม สำหรับการสลายตัวทางความร้อนพบว่า การเติมแป้งมันฝรั่งลงในแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติทั้งที่เติมและไม่เติม กลีเซอรอลจากเทคนิกการเตรียมทั้ง 2 แบบ ส่งผลให้ยางธรรมชาติซึ่งเป็นเฟสหลักมีแนวโน้มที่จะสลายตัวที่อุณหภูมิที่สูงขึ้น เมื่อเติมสารคู่ควบไซเลน Si-69 แทนการเติมกลีเซอรอล พบว่าแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่ได้มีความสามารถในการดูดซับน้ำและความทนต่อแรงดึงที่ดียิ่งขึ้น แต่ความต้านทานต่อการฉีกขาดกลับมีค่าต่ำที่สุด


การพัฒนาวิธีการตรวจวัดสารหน่วงการติดไฟโบรมิเนเทตในพอลิสไตรีนชนิดทนแรงกระแทกสูงด้วยวิธีเอ็กซ์เรย์ฟลูออเรสเซนซ์สเปกโทรเมตรี, พลวัต สิงหเสมานนท์ Jan 2019

การพัฒนาวิธีการตรวจวัดสารหน่วงการติดไฟโบรมิเนเทตในพอลิสไตรีนชนิดทนแรงกระแทกสูงด้วยวิธีเอ็กซ์เรย์ฟลูออเรสเซนซ์สเปกโทรเมตรี, พลวัต สิงหเสมานนท์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้เป็นการพัฒนาวิธีสำหรับการตรวจวัดสารหน่วงติดไฟที่มีธาตุโบรมีนเป็นองค์ประกอบในตัวอย่างพอลิสไตรีนชนิดทนแรงกระแทกสูง โดยใช้วิธีเอ็กซ์เรย์ฟลูออเรสเซนซ์สเปกโทรเมตรี (XRF) ปัญหาของการตรวจวัดด้วยวิธีนี้ต้องใช้วัสดุมาตรฐาน (Reference materials, RM) ที่เหมาะสมโดยต้องมีลักษณะ และองค์ประกอบที่มีความใกล้เคียงกับตัวอย่างมากที่สุด งานวิจัยนี้จึงศึกษาการเตรียมวัสดุมาตรฐานปฐมภูมิและทุติยภูมิซึ่งเป็นสารเติมแต่งที่ใช้ในการผลิตจริง ในช่วงความเข้มข้นของโบรมีน 1-13% โดยน้ำหนัก ซึ่งครอบคลุมช่วงความเข้มข้นที่ใช้ในการผลิตจริง โดยเตรียมวัสดุมาตรฐานด้วยเครื่องผสมพอลิเมอร์แบบไม่ต่อเนื่อง บดวัสดุมาตรฐานภายใต้ไนโตรเจนเหลว และอัดขึ้นรูปเป็นแผ่น จากนั้นนำไปสร้างกราฟมาตรฐาน และวิเคราะห์ด้วยวิธีเอ็กซ์เรย์ฟลูออเรสเซนซ์สเปกโทรเมตรี กราฟมาตรฐานที่ทั้งหมดมีความเป็นเส้นตรงดี (r2 > 0.995) ทดสอบความแม่น (Accuracy) และความเที่ยง (Precision) ของการทดสอบ โดยใช้สารอ้างอิงมาตรฐานภายใน (In-house reference materials) ที่มีความเข้มข้นของโบรมีน 10% โดยน้ำหนัก ค่าความแม่นรายงานด้วยค่าร้อยละการคืนกลับ (%Recovery) อยู่ในช่วง 98.6 - 104.1% และ ความผิดพลาดสัมพัทธ์ (Relative error) อยู่ในช่วง 0.44 – 4.15 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ความเที่ยงรายงานด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพันธ์ (%RSD) อยู่ในช่วง 0.12 – 0.62 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ค่าขีดจำกัดต่ำสุดของการตรวจวัด (Limit of detection, LOD) อยู่ในช่วง 0.32 – 0.45 % โบรมีนโดยน้ำหนัก วัสดุมาตรฐานที่เตรียมขึ้นมีความเป็นเนื้อเดียวกันสูงทั้งภายในชุดผสม และระหว่างชุดผสม อีกทั้งยังมีความเสถียรสูง ไม่มีความแตกต่างของความเข้มของสัญญาณเอกซ์เรย์ที่วัดได้ตลอดระยะเวลา 6 เดือน วิธีที่พัฒนาขึ้นเป็นวิธีที่ไม่ทำลายตัวอย่าง สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เตรียมตัวอย่างได้ง่าย สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวอย่างจริง ทั้งงานควบคุมคุณภาพ และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้


การกำจัดโมโนกลีเซอไรด์ชนิดอิ่มตัวในไบโอดีเซลด้วยการดูดซับและผลต่อสมบัติที่อุณหภูมิต่ำของน้ำมันไบโอดีเซลผสม, พีระภักดิ์ ศรีขวัญใจ Jan 2019

การกำจัดโมโนกลีเซอไรด์ชนิดอิ่มตัวในไบโอดีเซลด้วยการดูดซับและผลต่อสมบัติที่อุณหภูมิต่ำของน้ำมันไบโอดีเซลผสม, พีระภักดิ์ ศรีขวัญใจ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

โมโนกลีเซอไรด์ชนิดอิ่มตัว (Saturated monoglyceride; SMG) คือสาเหตุหลักของการเกิดตะกอนเหนือจุดขุ่นในไบโอดีเซล (B100) ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการอุดตันไส้กรองในเครื่องยนต์ดีเซล ในงานวิจัยนี้ทำการศึกษาผลกระทบของ SMG ใน B100 ช่วงความเข้มข้น 0.0-0.7 wt% ที่มีต่อจุดขุ่นในไบโอดีเซลผสม B7, B10 และ B20 ที่ใช้น้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร4 และ ยูโร5 ที่มีความเข้มข้นของแอโรแมติกสูงและต่ำตามลำดับ พบว่า SMG มีผลต่อจุดขุ่นในไบโอดีเซลผสมมาตรฐานยูโร5 มากกว่า การเพิ่มความเข้มข้นของ SMG ที่ช่วงความเข้มข้นต่ำในไบโอดีเซลผสมจะทำให้ค่าจุดขุ่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ การกำจัด SMG ใน B100 ด้วยการดูดซับโดยใช้ตัวดูดซับซีโอไลต์ธรรมชาติที่มีราคาถูกกว่าตัวดูดซับทางการค้า Magnesium silicate (MS) และ Silica gel พบว่าประสิทธิภาพการดูดซับของตัวดูดซับ MS ดีกว่าตัวดูดซับซีโอไลต์ธรรมชาติในการกำจัด SMG ใน B100 ที่อุณหภูมิ 45 oC เมื่อพัฒนาความจุในการดูดซับ SMG ของซีโอไลต์ธรรมชาติ NZ-325m โดยการบำบัดด้วยกรดไนตริก 1 M ที่อุณหภูมิ 60 oC เป็นเวลา 6 ชั่วโมง ทำให้พื้นที่ผิวจำเพาะของตัวดูดซับเพิ่มขึ้นเป็น 141.85 m2/g และยังเพิ่มปริมาณ SiO2 ที่วิเคราะห์จากเทคนิค X-ray fluorescence spectroscopy เนื่องจากผลกระทบจากการกำจัดอะลูมิเนียมในโครงสร้าง นอกจากนี้ยังพบว่าความจุการดูดซับ SMG มีค่าเท่ากับ 38.0 mgSMG/gads ในขณะที่สามารถลดปริมาณ SMG ใน B100 จาก 0.7 wt% เป็น 0.5 wt% เมื่อใช้ตัวดูดซับ 5 wt% ที่สภาวะการดูดซับ 45 oC เป็นเวลา 50 นาที ผลที่ตามมาหลังจากนำไปผสมเป็น B7 พบว่าจุดขุ่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


Boundaries Of Overlapping Reuleaux Triangles, Jirapat Kaewkam Jan 2019

Boundaries Of Overlapping Reuleaux Triangles, Jirapat Kaewkam

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

where R1 and R2 are two congruent Reuleaux triangle such that Int(R1)∩Int(R2) ̸= ∅. Denote ∂Ri and Int(Ri) the boundary and the interior of Ri , respectively. We finish the proof when R2 is a translated copy R1 and we obtain some interesting results when R1 and R2 intersect in general position.


Binomial Characterizations Of Inner Product Spaces, Saranyachakri Roekrit Jan 2019

Binomial Characterizations Of Inner Product Spaces, Saranyachakri Roekrit

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

We study the sufficient conditions for a normed space to be an inner product space. We found that some characterizations of inner product spaces are in a form [equation] satisfy some algebraic conditions. We then introduce some characterizations of inner product spaces relating to the binomial identity and conclude that a nomed linear space (X,II.II) is an inner product space if there exist positive integers k and m with 2m


Generalized Topologies Induced By Monotonic Maps And Hereditary Classes, Sahawat Wongkhunen Jan 2019

Generalized Topologies Induced By Monotonic Maps And Hereditary Classes, Sahawat Wongkhunen

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

It is shown in [3] that every generalized topology can be extended to a new one by using hereditary classes, called a generalized topology via a hereditary class. Following [5], the continuity on generalized topological spaces via hereditary classes was studied. In this thesis, we introduce the notion of generalized topological spaces induced by monotonic maps and hereditary classes and provide some of their properties. Also, we define and study the continuity on generalized topological spaces induced by monotonic maps and hereditary classes in various situations. Finally, we study some properties and characterizations of generalized topological spaces induced by monotonic …


Aircraft Detection Using Single Shot Scale-Invariant Face Detector With Viridis Saliency Map From Remote Sensing Image, Teepakorn Lilek Jan 2019

Aircraft Detection Using Single Shot Scale-Invariant Face Detector With Viridis Saliency Map From Remote Sensing Image, Teepakorn Lilek

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Aircraft detection from remote sensing images is a useful task and essential in many fields; for example, in the military, aircraft detection systems are used to search and inspect an enemy aircraft from remote sensing images. Nowadays, aircraft detection from remote sensing images has gained increasing research attention because this task is very challenging. This task is difficult due to many occurred problems in remote sensing images, such as a shadow, a complicated background, and various aircraft scales. In this research, we create a Viridis saliency map using many techniques from image processing such as color mapping, morphological image processing, …


Spectra Of Unitary Cayley Graphs Of Matrices Over Finite Commutative Rings, Jitsupat Rattanakangwanwong Jan 2019

Spectra Of Unitary Cayley Graphs Of Matrices Over Finite Commutative Rings, Jitsupat Rattanakangwanwong

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

For a finite ring R with identity, the unitary Cayley graph of R, CR, is the graph with vertex set R and for each x, y ∈ R, x and y are adjacent if and only if x − y is a unit of R. In this thesis, we determine some eigenvalues of CMn(F) , where F is a finite field, by using the additive characters and use these eigenvalues to analyze strong regularity, hyperenergetic graphs and Ramanujan graphs. Next, we extend the results to CMn(R) , where R is a local ring. We characterize all local rings R and …


Covers For Leo Moser's Worm Problem, Thitipong Kanchai Jan 2019

Covers For Leo Moser's Worm Problem, Thitipong Kanchai

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Leo Moser’s worm problem was posted in 1966 stating that “What is the region of the smallest area that can cover every unit are?”. In 2018, N. Ploymaklam and W. Wichiramala illustrated a new cover, which is currently smallest. Their cover was adapted from the cover of R. Norwood and G. Poole. In this work, we modify the region from the work of R. Norwood and G. Poole and the work of N. Ploymaklam and W. Wichiramala. Our regions are modified by changing their upper boundary. However, the regions remain satisfying properties in the work of R. Norwood and G. …


Classification Of Aircraft With Shadow Using Keypoint Descriptor From Remote Sensing Images, Natnicha Meeboonmak Jan 2019

Classification Of Aircraft With Shadow Using Keypoint Descriptor From Remote Sensing Images, Natnicha Meeboonmak

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Presently, aircraft classification from remote sensing images is widely used in military and civilian. However, aircraft type classification is still challenging to discriminate. The reason is that the aircraft displayed in the image has different in color, shape, size, and orientation. Moreover, there is the shadow appeared over and behind the aircraft that obscures some details of aircraft. Therefore, this work proposes the classification of aircraft with shadow method. This method modifies the deeply supervised salient object detection with short connections to make the aircraft be outstanding from the shadow and other objects in the background and then segment it. …


Development Of Facial Expression Detection Model For Stroke Patients, Rawinan Praditsangthong Jan 2019

Development Of Facial Expression Detection Model For Stroke Patients, Rawinan Praditsangthong

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

A stroke patient should be cared and treated closely since the patient cannot speak, communicate, and move the body when needed. In addition, the number of stroke patients is increasing in Thailand and around the world. Unfortunately, the number of medical staffs does not vary by the number of stroke patient. Thus, the aim of this research is to develop a facial expression detection model for stroke patients during their treatments. This research proposes the facial expression detection model for stroke patients from facial features, such as Interpalpebral Fissure (IPF), Palpebral Fissure Length (PFL), Palpebral Fissure Region (PFR), Inner Brow …


Normalized Hodge Laplacian Matrix And Its Spectrum, Nalinpat Ponoi Jan 2019

Normalized Hodge Laplacian Matrix And Its Spectrum, Nalinpat Ponoi

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


Polyvinyl Alcohol/Starch Modified Cotton Thread For Glucose Distance-Based Colorimetric Detection, Pornchanok Punnoy Jan 2019

Polyvinyl Alcohol/Starch Modified Cotton Thread For Glucose Distance-Based Colorimetric Detection, Pornchanok Punnoy

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In this thesis, polyvinyl alcohol (PVA) and starch modified cotton thread was developed as a cotton thread-based device for distance-based colorimetric detection of hydrogen peroxide (H2O2) and glucose. PVA and starch, the biocompatible polymers, were modified on a cotton thread to enhance the enzymatic stability and reagent immobilization efficiency. The colorimetric glucose detection of the device was based on a bienzymatic reaction involving glucose oxidase (GOx) and horseradish peroxidase (HRP), incorporated with potassium iodide (KI) as an indicator, which was oxidized by H2O2 to provide blue-black color band of an iodine–starch complex. The length of color band on the cotton …


Effects Of Synthetic Glyceryl Ester Additives On Cold Flow Properties Of Diesel Oil, Ruchapong Kaweewut Jan 2019

Effects Of Synthetic Glyceryl Ester Additives On Cold Flow Properties Of Diesel Oil, Ruchapong Kaweewut

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The synthesis of solketal derivatives with some selected fatty acid (stearic acid, palmitic acid, lauric acid, myristic acid, oleic acid and linolenic acid) to glyceryl esters was conducted. All compounds were characterized by spectroscopic means. Cold flow properties of diesel oil with these glyceryl ester additives were studied in terms of pour point (PP). Glyceryl laurate was the most effective pour point decreasing at 1,000 mg/kg (DPP = 3°C). However, the blended diesel of 1,000 mg/kg glyceryl laurate could not commercialize finishing product because that was hazy diesel at room temperature. The combination of glyceryl laurate and commercial additive was …


Continuous Flow Selective Hydrogenation Of 5-Hydroxymethylfurfural To 2.5-Dimethylfuran Using Pd-Cu/Reduced Graphene Oxde Catalysts, Sareena Mhadmhan Jan 2019

Continuous Flow Selective Hydrogenation Of 5-Hydroxymethylfurfural To 2.5-Dimethylfuran Using Pd-Cu/Reduced Graphene Oxde Catalysts, Sareena Mhadmhan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

2,5-Dimethylfuran (DMF) has been considered a promising biofuel, potentially derived from biomass. There have been various reports on DMF production from hydrogenation of 5-hydroxymethylfurfural (HMF). However, most reports employed high hydrogen pressure, long reaction times, and reactions under batch reactor. In this study, Pd-Cu bimetallic catalysts incorporated on reduced graphene oxide (RGO) were used for hydrogenation of HMF to DMF using 2-propanol as hydrogen donor under continuous flow system. Synthesized catalysts were characterized by N2 physisorption, scanning electron microscopy-energy dispersive X-ray spectroscopy (SEM-EDX), X-ray diffraction (XRD), X-ray photoelectron spectroscopy (XPS), transmission electron microscopy (TEM), and temperature programmed reduction of hydrogen …


Magnetic Nanoparticles Stabilized By Phosphorylcholine-Containing Polymer For Antibody Free C-Reactive Protein Detection, Suttawan Saipia Jan 2019

Magnetic Nanoparticles Stabilized By Phosphorylcholine-Containing Polymer For Antibody Free C-Reactive Protein Detection, Suttawan Saipia

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This research aims to develop a simple, yet effective assay for C-reactive protein (CRP) detection based on a combination of magnetic separation and antibody-free colorimetric assay. Magnetic nanoparticles stabilized with phosphorylcholine-containing polymer, poly[methacrylic acid)-ran-(methacryloyloxyethyl phosphorylcholine)] (PMAMPC-MNPs) were prepared by co-precipitation of ferric and ferrous salts in the presence of PMAMPC. Carboxyl groups in the methacrylic acid (MA) repeat units chelate with Fe atoms during MNPs formation while the methacryloyloxyethyl phosphorylcholine (MPC) repeat units provide specifically binding sites and conjugate with CRP in presence of Ca2+. The PMAMPC-MNPs were characterized by ATR-FTIR, TEM, DLS, TGA and XRD. To determine the CRP …


Ads₄/Cft₃ Holography From Four-Dimensional Gauged Supergravity, Khem Upathambhakul Jan 2019

Ads₄/Cft₃ Holography From Four-Dimensional Gauged Supergravity, Khem Upathambhakul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

We study holographic RG flows from N = 3 and N = 4 gauged supergravities in four dimensions. The scalar manifold of N = 3 gauged supergravity is in the form of the coset space G/H = SU(3, n)/SU(3) × SU(n) × U(1). Possible gauge groups, in this study, are given by SO(3) × SO(3), SO(3, 1), SO(2, 2), SO(2, 1) × SO(2, 2), and SL(3, R). We then study N = 4 gauged supergravity from type II compactification on T⁶/Z₂ × Z₂ with non-semisimple gaugings. The scalar manifold of N = 4 gauged supergravity is in the form of …


Effects Of Magnesium Substitution On Electronic Properties Of Calcium Difluoride, Natthasart Chintananon Jan 2019

Effects Of Magnesium Substitution On Electronic Properties Of Calcium Difluoride, Natthasart Chintananon

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

We use density functional theory to find the phase transitions of CaF2. The results show that CaF2 adopts the fluorite structure, with the space group Fm-3m, in the range 0f 0-8 GPa and transforms into the cotunnite structure, with the space group Pnma, above 8 GPa. The electronic band structure of the Pnma-CaF2 structure expresses an insulating phase, and the bandgap collapses under pressure above 70 GPa. In this work, we proposed a new decoration of Ca/Mg-substituted fluorides MgxCa1-xF2, using the cluster expansion technique which is commonly used to study alloys. We found that the Mg0.25Ca0.75F2, with a Pm structure, …