Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Social and Behavioral Sciences Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Chulalongkorn University

Discipline
Keyword
Publication Year
Publication
Publication Type

Articles 2131 - 2160 of 5570

Full-Text Articles in Social and Behavioral Sciences

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการการบินไทยสำหรับเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่น, ศรวัสย์ ลอยชูศักดิ์ Jan 2019

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการการบินไทยสำหรับเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่น, ศรวัสย์ ลอยชูศักดิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการเลือกใช้บริการการบินไทย กลยุทธ์ที่การบินไทยใช้ในการปรับตัวในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการแข่งขันในสภาวการณ์การแข่งขันอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้น สำหรับเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่น เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยกลุ่มตัวอย่างได้มาจากการเลือกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลที่ใช้เป็นแบบเจาะจง จำนวน 9 คน ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ผสมกับการวิจัยเชิงปริมาณ ที่กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการวิธีการสุ่มแบบเจาะจงและแบบบังเอิญ จำนวน 150 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล โดยนำผลลัพธ์ที่ได้จากการแปรผลจากแบบสอบถามมาหาค่า ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้ประกอบกับผลลัพธ์ที่ได้จากการสัมภาษณ์ เพื่อช่วยยืนยันให้ผลการสัมภาษณ์มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ผลการศึกษาพบว่า 1. ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการเลือกใช้บริการการบินไทย สำหรับเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่นอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ 1) ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ เช่น ชนิดของเครื่องบิน ขนาดที่นั่ง กำหนดเวลาขึ้นเครื่อง ตารางบิน ฯลฯ 2) ปัจจัยด้านลักษณะทางกายภาพ เช่น ของที่ระลึก นิตยสารบนเครื่องบิน สื่อสาระบันเทิงบนเครื่องบิน อาหารหลัก อาหารว่าง ห้องน้ำ ฯลฯ 3) ปัจจัยด้านบุคลากร เช่น การบริการของพนักงานภาคพื้น และ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 2. กลยุทธ์การให้บริการบนเที่ยวบิน ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่เป็นจุดแข็งสำหรับการบินไทยในเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่น คือ การเพิ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่เป็นชาวญี่ปุ่น 1-2 คนต่อเที่ยวบิน การเพิ่มตัวเลือกอาหารญี่ปุ่น การประกาศประชาสัมพันธ์บนเครื่องบินที่เป็นภาษาญี่ปุ่นเพิ่มอีก 1 ภาษา รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินและการบริการบนเครื่องบิน


ปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรที่ส่งผลต่อความผูกพันธ์ต่อองค์กร กรณีศึกษาพนักงานราชการสังกัดกรมศุลกากร, อิทธิพงษ์ อินทยุง Jan 2019

ปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรที่ส่งผลต่อความผูกพันธ์ต่อองค์กร กรณีศึกษาพนักงานราชการสังกัดกรมศุลกากร, อิทธิพงษ์ อินทยุง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ทำให้ทราบถึงปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานราชการกรมศุลกากรที่ส่งผลต่อความผูกพันที่มีต่อองค์กร (2) เพื่อนำผลการศึกษาที่ได้มาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานราชการกรมศุลกากร การวิจัยนี้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานราชการสังกัดกรมศุลกากรจำนวน 261 คน มีการประมวลผลวิเคราะห์โดยใช้สถิติค่าแจกแจงความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) T-test, F-test และการวิเคราะห์การถดถอย (Regression) ผลการวิจัย สามารถสรุปได้ดังนี้ 1. เพศของพนักงานราชการที่แตกต่างกัน มีระดับความผูกพันต่อองค์กรไม่แตกต่างกัน ในขณะที่ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการทำงาน ระดับเงินเดือนของพนักงานราชการที่แตกต่างกัน มีระดับความผูกพันต่อองค์กรแตกต่างกัน 2. ปัจจัยด้านคุณภาพชีวิตในการทำงานในด้านลักษณะงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสังคมโดยตรง ด้านลักษณะงานที่ส่งเสริมความเจริญเติบโตและความมั่นคงให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ด้านความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงานโดยส่วนรวม และด้านค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเพียงพอ มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กร ในขณะที่ ด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย ด้านการเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานได้พัฒนาความรู้ความสามารถได้เป็นอย่างดี ด้านลักษณะงานที่มีส่วนส่งเสริมด้านบูรณาการทางสังคมของผู้ปฏิบัติงาน และด้านลักษณะงานที่ตั้งอยู่บนฐานของกฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรม ไม่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กร


ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลาออกของข้าราชการ: กรณีศึกษา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์, อัญญุรี ตุ้ยแม้น Jan 2019

ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลาออกของข้าราชการ: กรณีศึกษา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์, อัญญุรี ตุ้ยแม้น

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลาออกของข้าราชการ: กรณีศึกษา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลาออก ความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการตัดสินใจลาออก และความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนการตัดสินใจลาออกของข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยใช้วิธีเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างที่เคยเป็นข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แต่ได้ลาออกระหว่างปีงบประมาณ 2559 – 2563 (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2563) สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ใช้การแจกแจงค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานใช้การทดสอบค่า T–Test เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย 2 กลุ่ม การทดสอบค่า F–test ในการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ย 2 กลุ่มขึ้นไป และการหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนกับการตัดสินใจลาออก โดยใช้การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) ผลการวิจัย พบว่า ความแตกต่างของปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ ตำแหน่ง และอายุราชการ มีผลต่อการตัดสินใจลาออกที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และปัจจัยค้ำจุนด้านผลตอบแทนและสวัสดิการมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามกับการตัดสินใจลาออก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ดังกล่าว สามารถแปลความได้ว่า หากข้าราชการมีความพึงพอใจในผลตอบแทนและสวัสดิการที่ได้รับจากองค์การ ก็จะส่งผลให้มีการตัดสินใจลาออกลดลง


การเปรียบเทียบการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ กรณีศึกษา : โครงการสวางคนิเวศ สภากาชาดไทย และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค, ธนพร ทองขาว Jan 2019

การเปรียบเทียบการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ กรณีศึกษา : โครงการสวางคนิเวศ สภากาชาดไทย และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค, ธนพร ทองขาว

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งในด้านการบริหารจัดการองค์การ การบริหารจัดการที่อยู่อาศัย ตลอดจนแนวทางการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุของหน่วยงานภาครัฐหลักที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึก ซึ่งผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ประจำอาคารสวางคนิเวศ สภากาชาดไทย จำนวน 3 ท่าน และผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแคจำนวน 4 ท่าน ผลการศึกษาพบว่า จากเกณฑ์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบลักษณะการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุทั้งสองแห่งนั้น มีความคล้ายคลึงกันในด้านวิสัยทัศน์ ค่านิยม การจัดโครงสร้างองค์การ การวางแผนและการดำเนินงาน และการบริหารทรัพยากรทางกายภาพ ในขณะที่ทั้งสองแห่งมีความแตกต่างกันในเรื่อง หน่วยงานที่สังกัด การสนับสนุนงบประมาณ การบริหารทรัพยากรบุคคล อัตราค่าบริการ และกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ ในด้านการส่งเสริมและสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐนั้น มีเพียงศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแคที่ได้รับการส่งเสริมทั้งในมิติด้านการเงิน การอบรมพัฒนาบุคลากร องค์ความรู้ และนวัตกรรมผู้สูงอายุ สำหรับการจัดที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุโดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องนั้น มีลักษณะให้ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในที่เดิมภายใต้การดูแลของครอบครัว และมีการสร้าง Senior Complex ที่มีบริการครบวงจรเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่ต้องการใช้ชีวิตในชุมชน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันภาครัฐยังไม่มีแนวทางส่งเสริมการจัดบริการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุของภาคเอกชนหรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร


ปัจจัยที่ส่งผลต่อการถ่ายโอนเรียนรู้ของข้าราชการครูในการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สิรินภา ปัญญาธิกวัฒน์ Jan 2019

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการถ่ายโอนเรียนรู้ของข้าราชการครูในการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สิรินภา ปัญญาธิกวัฒน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาว่าปัจจัยใดที่ส่งผลต่อการถ่ายโอนการเรียนรู้ในการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากรกับการถ่ายโอนการเรียนรู้ในการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ 3) ศึกษาถึงระดับการถ่ายโอนการเรียนรู้ของข้าราชการครูภายหลังการเข้ารับการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ 4) ศึกษาถึงความแตกต่างของทัศนคติระหว่างก่อนและหลังการเข้ารับการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ และ 5) สามารถนำผลการวิจัยไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาครูด้วยระบบออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ โดยการศึกษาวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการครูในเคยเข้ารับการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 778 คน โดยใช้เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถามออนไลน์ และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ SPSS โดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ สถิติสหสัมพันธ์และการวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ผลการศึกษาวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการถ่ายโอนการเรียนรู้ของข้าราชการครูในการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ ได้แก่ ด้านคุณลักษณะของผู้เข้ารับการอบรม ด้านเนื้อหาและหลักสูตร ด้านองค์ประกอบของการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน และด้านการนำนโยบายไปปฏิบัติ 2) ลักษณะทางประชากรด้านอายุราชการ มีความสัมพันธ์กับการถ่ายโอนการเรียนรู้ในการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ 3) ระดับการถ่ายโอนการเรียนรู้ของข้าราชการครูภายหลังการเข้ารับการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์อยู่ในระดับมาก และ 4) ภายหลังข้าราชการครูเข้ารับการพัฒนาด้วยระบบออนไลน์ มีระดับทัศนคติเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนเข้ารับการพัฒนา


การศึกษาระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ของหน่วยความมั่นคง:กรณีศึกษาการจัดหายุทโธปกรณ์, เกริกไกร เอมพันธุ์ Jan 2019

การศึกษาระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ของหน่วยความมั่นคง:กรณีศึกษาการจัดหายุทโธปกรณ์, เกริกไกร เอมพันธุ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วัตถุประสงค์ของสารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวิธีการบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ของหน่วยความมั่นคง 2) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการบริหารงบประมาณของหน่วยความมั่นคง ในการนำเอาการบริหารระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติ และ 3) เสนอแนะแนวทางการบริหารงบประมาณของหน่วยความมั่นคงให้เป็นไปตามกระบวนการงบประมาณในระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดหายุทโธปกรณ์ โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล 3 วิธีได้แก่ การรวบรวมข้อมูลเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม สำหรับผลการวิจัยพบว่า สาเหตุของปัญหาในระบบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ของหน่วยความมั่นคงมาจาก ลักษณะของงานความมั่นคงที่เป็นนามธรรมทำให้การกำหนดตัวชี้วัด การประเมินผล ทำได้ยากจึงทำเกิดปัญหาอี่นตามมา เช่น ปัญหาเชิงระบบ เชิงนโยบาย ปัญหาการมีส่วนร่วม ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการจัดหายุทโธปกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ยุทโธปกรณ์ โดยผู้วิจัยสามารถนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยแก้ไขการตีความลักษณะงานให้เป็นรูปธรรมเพื่อที่จะทำให้ การกำหนดตัวชี้วัด การประเมินผลมีประสิทธิภาพ เพิ่มการมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดหายุทโธปกรณ์ และนำเอาหลักธรรมาภิบาลเข้ามาดำเนินการเป็นหลักในการแก้ปัญหา โดยในการปฏิบัตินั้นต้องดำเนินการควบคุม กำกับดูแล วินัยทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยหน่วยงานที่กำกับวินัยการเงินการคลังของหน่วยความมั่นคง และมีระบบประเมินผลที่ผู้วิจัยได้ออกแบบไว้ในขั้นต้น ที่มีความเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพ คือแนวทางทางการบริหารการคลังที่ดีบนพื้นฐานความยั่งยืน


ระดับความรู้ความเข้าใจพื้นฐานของผู้โดยสารเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรขาเข้าสำหรับของติดตัวผู้โดยสารทางท่าอากาศยานและทัศนคติของผู้โดยสารที่มีต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ภัทรวรรณ สิทธิสมบัติ Jan 2019

ระดับความรู้ความเข้าใจพื้นฐานของผู้โดยสารเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรขาเข้าสำหรับของติดตัวผู้โดยสารทางท่าอากาศยานและทัศนคติของผู้โดยสารที่มีต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ภัทรวรรณ สิทธิสมบัติ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาถึงการรับรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับพิธีการศุลกากรขาเข้า สำหรับของติดตัวผู้โดยสารทางท่าอกาศยาน 2) ศึกษาถึงทัศนคติของผู้โดยสารที่มีต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ 3) ศึกษาถึงปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อทัศนคติของผู้โดยสารที่มีต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อนำไปวิเคราะห์ปรับปรุงการทำงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้ดียิ่งขึ้นในเเง่ทัศนคติของผู้โดยสารควบคู่กับการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพเเละประสิทธิผล การวิจัยครั้งนี้ได้ผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งคือ ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในปี พ.ศ. 2562 จำนวน 400 คน และใช้โปรแกรมวิเคราะห์ทางสถิติ SPSS สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 10 คน ที่มีความเเตกต่างกันทางอาชีพ วัตถุประสงค์ในการเดินทาง และความถี่ในการเดินทาง ผลการศึกษาพบว่าผู้โดยสารที่เดินทางผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความรู้เกี่ยวกับพิธีการศุลกากรในระดับปานกลาง ซึ่งเป็นความรู้ที่ทราบเเต่เรื่องการนำเข้าแอลกอฮอล์เเละบุหรี่เป็นหลัก ในเรื่องอื่นๆ เช่น ของต้องห้าม ของต้องกำกัด เป็นต้น ผู้โดยสารไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจได้ถูกต้องมากนัก ส่วนเรื่องทัศนคติของผู้โดยสารที่มีต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ในระดับปานกลาง โดยปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติ คือ ทัศนคติที่มีต่อการปฏิบัติตามกฎหมายภาษี ความเชื่อถือในการปฏิบัติงานของรัฐ และความพึงพอใจที่มีต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากร


แนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายทางการคลังเพื่อส่งเสริมการบริหารการคลังอย่างยั่งยืน, วันเฉลิม คงเกต Jan 2019

แนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายทางการคลังเพื่อส่งเสริมการบริหารการคลังอย่างยั่งยืน, วันเฉลิม คงเกต

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับนโยบายทางการคลังในต่างประเทศเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทย และเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานสถาบันทางการคลังของไทย ณ ปัจจุบัน เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการเก็บข้อมูลจากการศึกษาข้อมูลเชิงเอกสารในเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายการคลังในประเทศพัฒนาแล้วจำนวน 5 ประเทศและการสัมภาษณ์เชิงลึกสำหรับกลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่ม คือ นักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญในภาคการคลัง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรื่องการคลังของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรื่องการคลังของธนาคารแห่งประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า สถาบันทางการคลังที่เป็นอิสระในประเทศพัฒนาแล้วมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ รูปแบบ fiscal council, parliamentary budget office model และ other model โดยศึกษาสถาบันทางการคลังที่เป็นอิสระในประเทศพัฒนาแล้ว ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถแบ่งรูปแบบของสถาบันทางการคลังที่เป็นอิสระ คือ รูปแบบ fiscal council และ parliamentary budget office model มีหน้าที่สำคัญ คือ วิเคราะห์ความยั่งยืนทางการคลังระยะยาว ประมาณการเศรษฐกิจหรืองบประมาณ และติดตามการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การคลัง สำหรับกรณีประเทศไทย มีปรับปรุงคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ผ่านการแก้ไข พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 10 เพื่อปรับปรุงตัวแทนในคณะกรรมการ และเพิ่มเติมหน้าที่ในเรื่องการส่งสัญญาณเตือนต่อรัฐบาลในเรื่องความเสี่ยงทางการคลัง และการให้ความรู้ด้านการคลังต่อสาธารณะ .


Marketing Strategy Development For Professional Services Firms: Case Study Of Certified Audit Firms In Russia, Dmitrii Bushkov Jan 2019

Marketing Strategy Development For Professional Services Firms: Case Study Of Certified Audit Firms In Russia, Dmitrii Bushkov

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This work is devoted to developing a strategy based on the Blue Ocean Strategy framework for audit firms in Russia. Today, audit firms in Russia are in an awkward position, caused by a fall of revenue in real terms, a high level of competition and a difficult economic situation. Therefore, audit firms are forced to look for new ways to grow their business. The paper analyzes the market for audit services in the period from 2009 to 2018, including structural analysis, revenue analysis, and assessment of the impact of the largest audit firms on the market. The historical background shows …


The Effect Of A Growth Mindset Intervention On Underprivileged Students’ English Intelligence Mindset And Academic Resilience With Perceived English Teacher Support As A Moderator, Pimporn Buathong Jan 2019

The Effect Of A Growth Mindset Intervention On Underprivileged Students’ English Intelligence Mindset And Academic Resilience With Perceived English Teacher Support As A Moderator, Pimporn Buathong

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The main purposes of this study were to delve into the effects of a growth mindset intervention on underprivileged students’ growth mindset in English intelligence and academic resilience in English and into the mediating role of the growth mindset. Also, this research examined the moderating role of perceived English teacher support. Participants were 216 Mattayom 2 students from 2 schools in the Eastern region of Thailand (The second school served as a site for partial replication). Students from each school were systematically assigned into two groups based on their odd or even student identification numbers. The experimental conditions were randomly …


A Comparison Of Emotion Regulation Strategies’ Effectiveness Under Cognitive Fatigue, Sirinapa Churassamee Jan 2019

A Comparison Of Emotion Regulation Strategies’ Effectiveness Under Cognitive Fatigue, Sirinapa Churassamee

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This research compared the effectiveness of three emotion regulation strategies including reappraisal, distraction, and affect labeling under cognitive fatigue. In the 2 (fatigue vs. non-fatigue) × 3 (emotion regulation strategies) within-subject design, 46 participants were randomly assigned into conditions using an incomplete block design method. Self-report negative emotions and skin conductance responses to emotion-eliciting pictures were measured to compare the effectiveness of the strategies. Results showed that reappraisal was more effective in regulating negative emotions than distraction and affect labeling in both fatigue and non-fatigue conditions. While reappraisal was a robust method of regulating emotion, the other two less-demanding strategies …


Influence Of Embodiment On Positive Body Image With Self-Objectification And Body Awareness As Mediators Of Female Yoga Practitioners, Worakarn Saekim Jan 2019

Influence Of Embodiment On Positive Body Image With Self-Objectification And Body Awareness As Mediators Of Female Yoga Practitioners, Worakarn Saekim

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The purpose of this research was to examine the relationship between embodiment and body appreciation, with the mediating effects or body awareness and self-objectification. Participants were 188 Thai female yoga practitioners who practice yoga more than 6 hours per week and for at least 4 months. The mean age was 47.61. Participants completed the measure of embodiment, body appreciation, self-objectification, and body awareness. Results from the Structural Equation Modelling (SEM) analysis using AMOS indicated that the hypothesised model fit with the empirical data. Embodiment had a direct effect on body appreciation and an indirect one via reduced self-objectification. However, body …


The Thai Perception Of The Bounds Of Masculinity: An Analysis Of Boys’ Love Drama Series, Anthony Thien Pham Jan 2019

The Thai Perception Of The Bounds Of Masculinity: An Analysis Of Boys’ Love Drama Series, Anthony Thien Pham

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The study lays a foundation for understanding gender and sexuality within a Thai sociocultural, political, and economic context and goes on to elaborate how Thai boys' love drama series productions are built upon the foundation of their Japanese and Chinese predecessors. An analysis of the evolution of boys' love drama series within Thailand will be conducted from the years 2014 to 2018, utilizing the Uses and Gratification Theory as well as the Media System Dependency Theory in order to rationalize growth and success of the genre. Queer Theory and Social Constructivism are applied in order to better understanding the shifting …


Thailand And Biennial Art Festival : The Case Study Of Bangkok Art Biennale 2018, Bangkok Biennial, And Thailand Biennale, Shinya Akutagawa Jan 2019

Thailand And Biennial Art Festival : The Case Study Of Bangkok Art Biennale 2018, Bangkok Biennial, And Thailand Biennale, Shinya Akutagawa

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This thesis examines biennial art festivals in Thailand, namely Bangkok Art Biennale 2018, Bangkok Biennial and Thailand Biennale. Each festival had a different type of biennial respectively and all represented the first biennial in Thailand. The biennial art festival can be traced back to the world fairs and grand tours in Europe. In the 19th century, Siamese elite conducted a grand tour to Europe and participated in world fairs. As Thongchai (2000, 540) illustrates that Siamese elite believed that their participation in major world fairs would increase their recognition and elevate their status on the global stage, the biennials organizers …


The Popularity And The Localization Of Muay Thai In California, Usa, Andrew Rudolph Sorrells Jan 2019

The Popularity And The Localization Of Muay Thai In California, Usa, Andrew Rudolph Sorrells

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Muay Thai as the traditional martial art of the Thai people. In the last few decades, Muay Thai has spread throughout the world. The International Federation of Muay Thai Amateurs (IFMA), based in Bangkok, boasts 130 member countries. One of the places Muay Thai spread to and became popularized is California, USA. This paper is an ethnographic study of the phenomenon of how the Thai martial art of Muay Thai has been popularized and localized in California. I did field work at Muay Thai gyms in California and Thailand where I observed the different traditions, practices, and training methodologies. I …


Understanding Femininity In Beauty Pageant Industry: A Case Study Of Puteri Indonesia Pageant, Prasetyo Pamungkas Suwardi Jan 2019

Understanding Femininity In Beauty Pageant Industry: A Case Study Of Puteri Indonesia Pageant, Prasetyo Pamungkas Suwardi

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Puteri Indonesia, the oldest running beauty pageant in Indonesia offers an interesting site to analyze the construction of femininity within the country. The study will cover three scopes in this study; first is the historical formation of Puteri Indonesia pageant, which sets a foundational construction of femininity in Puteri Indonesia pageant. The study will observe how the constructed femininity is intertwined with the gender propaganda of the Soeharto regime that is based on Javanese idea that coupled with the background of the owner of Puteri Indonesia as a member of Javanese Royals as resulting in Puteri Keraton deemed appropriate for …


Consumers’ Exposure To Facebook Fanpage, And Their Motivation, And Loyalty To “Love And Producer” Mobile Game, Bhichamon Manomaiphibul Jan 2019

Consumers’ Exposure To Facebook Fanpage, And Their Motivation, And Loyalty To “Love And Producer” Mobile Game, Bhichamon Manomaiphibul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This research aims to analyze the exposure to “Love and Producer” mobile game’s Facebook Fanpage, consumers’ motivation, and loyalty. The research explores the relationship between the exposure to Love and Producer’s Facebook Fanpage and consumers’ motivation, as well as the relationship between consumers’ motivation and their loyalty. This quantitative research was conducted through an online survey which collected data from 200 female respondents, aged between 18 and 50 years old from all over the world in which 49% of the respondents are American. The results from the study reveals that respondents most frequently see photo post (M = 4.45) followed …


The Relationship Between Potential Chinese Tourists' Motivation, Exposure To Ewom And Intention To Travel To Thailand, Danxin Liu Jan 2019

The Relationship Between Potential Chinese Tourists' Motivation, Exposure To Ewom And Intention To Travel To Thailand, Danxin Liu

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The objectives of this research are to examine the potential Chinese tourists’ internal and external motivation to travel to Thailand, exposure to eWOM about tourism in Thailand, and intention to travel to Thailand, as well as the relationship between tourists’ motivation and exposure to eWOM, and the relationship between exposure to eWOM and travel intention. The quantitative research was conducted by an online survey, collecting data from 218 Chinese male and female respondents aged between 18 and 70 years old who have not visited Thailand before but have the intention to travel there. The results show that (1) the sample’s …


The Relationship Between Chinese Viewers' Attitude Toward Fansub Videos And Attitude Toward Sponsorship, Ruiqi Lou Jan 2019

The Relationship Between Chinese Viewers' Attitude Toward Fansub Videos And Attitude Toward Sponsorship, Ruiqi Lou

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This paper aimed to study Chinese viewers’ attitude toward watching fan-subtitled online courses, attitude toward sponsorship activity, and attitude toward sponsor brand. The relationships among three attitude variables were examined based on Fritz Heider’s balance theory. A quantitative approach was employed and an online questionnaire was distributed on the online forum of the most popular fansub group's website in mainland China. 216 samples were collected. The finding showed that three variables were favorable, and significantly positively correlated. This suggested that sponsoring fan-subtitled video could contribute to a positive attitude towards brands.


Generation Z'S Attitude Towards Music Consumption On Joox Online Music Streaming Application, Ravisrarat Pibulpanuvat Jan 2019

Generation Z'S Attitude Towards Music Consumption On Joox Online Music Streaming Application, Ravisrarat Pibulpanuvat

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The objective of this study is to investigate Thai generation Z’s attitude towards their music consumption on Joox online music streaming application. A qualitative approach was selected, using semi-structured, in-depth interviews. Ten participants, Thai generation Z music listeners, aged 17-24 years old who consume Joox online music streaming application every day for at least six months, were selected through purposive, snowballing sampling methods. The interviews were interpreted using In Vivo coding. This study based on the theoretical framework of Ajzen and Fishbein’s (2000) theory of planned behavior which suggested that actual behavior is motivated by the combination of attitude towards …


การศึกษาลักษณะและการตัดสินใจของผู้ผลิตและผู้บริโภคภายใต้ระบบชุมชนสนับสนุนเกษตรกรรม, พัชรดนัย ไชยเดช Jan 2019

การศึกษาลักษณะและการตัดสินใจของผู้ผลิตและผู้บริโภคภายใต้ระบบชุมชนสนับสนุนเกษตรกรรม, พัชรดนัย ไชยเดช

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระบบชุมชนสนับสนุนเกษตรกรรม (CSA) คือ รูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภค ในการซื้อขายผลผลิตอินทรีย์ โดยให้ผู้บริโภคเข้ามาเป็นสมาชิกและมีการชำระเงินล่วงหน้าให้เกษตรกรเป็นรายปี ผู้บริโภคจะได้ผลผลิตอินทรีย์จากฟาร์มเกษตรกรโดยตรงเป็นรายสัปดาห์ หรือตามข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะและการตัดสินใจของเกษตรกรและผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกภายใต้ระบบชุมชนสนับสนุนเกษตรกรรม (CSA) ในประเทศไทย โดยผู้วิจัยเลือกเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างเกษตรกรและกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคทั้งที่อยู่ภายใต้ระบบและไม่ได้อยู่ภายใต้ระบบ CSA ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรในกลุ่ม CSA มีอายุเฉลี่ยที่สูง มีรายจ่ายและหนี้สินน้อย ในด้านลักษณะเกษตรกรรม เกษตรกรในกลุ่ม CSA มีประสบการณ์ในภาคเกษตรน้อยกว่า และใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกน้อยกว่าเกษตรกรในกลุ่ม Non-CSA เหตุผลในการตัดสินใจเข้าร่วม CSA ของเกษตรกรให้ความสำคัญกับการไม่ใช้สารเคมีในการเกษตรมากที่สุด ลักษณะของผู้บริโภคในระบบชุนสนับสนุนเกษตรกรรม (CSA) มีอายุเฉลี่ย ระดับการศึกษา จำนวนสมาชิกในครัวเรือน และระดับรายได้สูงกว่าผู้บริโภคในกลุ่ม Non-CSA โดยเหตุผลในด้านผลผลิตอินทรีย์เป็นแรงจูงใจของผู้บริโภคในการตัดสินใจเข้าร่วมในระบบชุมชนสนับสนุนเกษตรกรรมมากที่สุด


การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการแพร่กระจายผลิตภาพการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย, สรัลพร เดชรัตนวิไชย Jan 2019

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการแพร่กระจายผลิตภาพการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย, สรัลพร เดชรัตนวิไชย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยฉบับนี้ได้ศึกษาถึงผลกระทบของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศต่อการแพร่กระจายผลิตภาพการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลรายสถานประกอบการจากสำมะโนอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2555 และ 2560 และประมาณค่าด้วยวิธี Ordinary Least Square (OLS) ผลการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนที่ 1 ศึกษาผลกระทบจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศต่อผลิตภาพการผลิตของสถานประกอบการยานยนต์ พบว่าสถานประกอบการที่มีต่างชาติร่วมลงทุนจะมีผลิตภาพการผลิตที่สูงกว่าสถานประกอบการที่ไม่มีต่างชาติร่วมลงทุน ส่วนในส่วนที่ 2 ศึกษาการแพร่กระจายผลิตภาพการผลิตจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศต่อสถานประกอบการยานยนต์ท้องถิ่น พบว่าการเข้ามาลงทุนของต่างชาติส่งผลให้เกิดการแพร่ กระจายผลิตภาพการผลิตไปสู่สถานประกอบการยานยนต์ท้องถิ่น ทำให้สถานประกอบการยานยนต์ท้องถิ่นมีผลิตภาพการผลิตสูงขึ้น การสะสมทุนมนุษย์เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การเข้ามาของต่างชาติส่งผลกระทบต่อการเพิ่มผลิตภาพการผลิตของสถานประกอบการท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น


ความเหลื่อมล้ำของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุในประเทศไทย, อภิชญา สุขวรรณ Jan 2019

ความเหลื่อมล้ำของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุในประเทศไทย, อภิชญา สุขวรรณ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเหลื่อมล้ำของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองของผู้สูงอายุในประเทศไทยโดยผ่านตัวแปรดัชนีความมั่งคั่งและความสัมพันธ์ของปัจจัยอื่นๆต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองของผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ขึ้นไป ข้อมูลที่ใช้เป็นข้อมูลทุติยภูมิจากสำรวจอนามัยและสวัสดิการ พ.ศ. 2560 และ 2062 ที่เก็บรวบรวมข้อมูลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คือสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์การถดถอยโทบิต ซึ่งจะแบ่งการวิเคราะห์เป็น 2 กรณีคือ กรณีผู้ป่วยนอกและกรณีผู้ป่วยใน ผลการวิจัยทั้งในกรณีที่ผู้สูงอายุเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในพบว่าผู้สูงอายุที่มีระดับดัชนีความมั่งคั่งหรือระดับรายได้ที่ต่ำมีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีระดับดัชนีความมั่งคั่งหรือระดับรายได้ที่สูงกว่า แสดงถึงความเหลื่อมล้ำในการเลือกเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่แตกต่างกันตามความสามารถในการจ่ายของผู้สูงอายุ นอกจากนี้การวิเคราะห์ในกรณีผู้ป่วยนอกยังพบว่า จำนวนสมาชิกในครัวเรือนมีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเอง ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในภาคกลาง, ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้มีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพ จำนวนโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเอง ผู้สูงอายุที่ป่วยในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคเบาหวานและความผิดปกติของต่อมไร้ท่อและเมตะบิลิซึมมีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่ในผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในกลุ่มอื่นๆมีผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ผู้สูงอายุที่มีสิทธิข้าราชการ/ ข้าราชการบำนาญมีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ และผู้สูงอายุที่อยู่ในระดับดัชนีความมั่งคั่งที่ต่ำและมีสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีระดับดัชนีความมั่งคั่งที่สูงกว่าและมีสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่วนในกรณีผู้ป่วยในมีผลการศึกษาของตัวแปรจำนวนสมาชิกในครัวเรือน ตัวแปรจำนวนโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตัวแปรกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และตัวแปรร่วมระหว่างดัชนีความั่งคังกับประกันสุขภาพถ้วนหน้าเช่นเดียวกันกับกรณีผู้ป่วยนอก แต่ยังมีตัวแปรที่มีผลการศึกษาเพิ่มเติมก็คือ ตัวแปรระดับการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุที่มีระดับการศึกษาก่อนประถมศึกษามีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีระดับการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรี ตัวแปรสถานะภาพสมรสพบว่าผู้สูงอายุที่แต่งงานแล้วมีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่ยังโสด หย่า หม้ายหรือแยกกัน ตัวแปรกลุ่มของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังพบว่าผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นกลุ่มโรคเรื้อรังของระบบหายใจมีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตัวแปรสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลมีผลเพิ่มเติมจากกรณีผู้ป่วยนอกคือผู้สูงอายุที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเป็นประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีผลเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่น และผู้สูงอายุที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเป็นประกันสังคม/ กองทุนทดแทนมีผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่น และจำนวนวันในการเข้าพักในสถานพยาบาลของผู้สูงอายุมีผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเอง แต่การศึกษาครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับตัวแปรดัชนีความมั่งคั่งเพื่อสะท้อนความเหลื่อมล้ำในค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองที่แตกต่างกันในผู้สูงอายุที่มีดัชนีความมั่งคั่งในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งจากผลการศึกษาที่กล่าวมาแล้วนั้น สะท้อนให้เห็นว่าเกิดความเหลื่อมล้ำในค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายด้วยตนเองขึ้นจริง


การศึกษา Be@Rbrick ในฐานะของสะสม, นพดล รัตนแสงหิรัญ Jan 2019

การศึกษา Be@Rbrick ในฐานะของสะสม, นพดล รัตนแสงหิรัญ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษา Be@rbrick ในฐานะของสะสม โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกศึกษาทางฝั่งผู้ผลิตในการสร้างมูลค่าเชิงสัญญะให้กับสินค้า โดยใช้แนวคิดของ ฌอง โบดริยาร์ด เนื่องจากการบริโภคของผู้คนยุคนี้ไม่ใช่แค่การใช้หรือเสพสินค้าที่เป็นวัตถุรูปธรรมเท่านั้น แต่มีด้านของการเสพสัญญะอยู่ด้วย โดยมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น กลไกการตลาดเป็นตัวสนับสนุน ส่วนที่สองศึกษาในด้านพฤติกรรมของกลุ่มคนที่สะสม Be@rbrick โดยใช้แนวคิดเรื่องการสร้างความโดดเด่นทางสังคมของ ปีแอร์ บูร์ดิเยอ ที่วิเคราะมิติการบริโภคโดยเน้นที่เรื่องทุนทางเศรษฐกิจและทุนทางวัฒนธรรม ผลที่ได้นั้นพบว่าผู้ผลิตใช้การร่วมมือกับบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้า ตัวละครจากภาพยนตร์ ดนตรี แฟชั่นเฮ้าส์ งานศิลปะ และวัฒนธรรมประชานิยมที่ได้รับความนิยมและมีคุณค่าสูงต่อผู้บริโภคอยู่แล้ว โดยนำความรับรู้ของผู้บริโภคต่อสินค้าเหล่านั้น มาใช้ออกแบบลวดลายบน Be@rbrick เป็นการใช้กระบวนการเข้ารหัสให้กลายเป็นสัญญะต่าง ๆ เช่น สัญญะของความหรูหรา สัญญะด้านความทรงจำที่ประทับใจในอดีต สัญญะด้านการฉลองวาระพิเศษ เพื่อเพิ่มมูลค่าแก่ผลิตภัณฑ์ของตน โดยใช้กลไกการตลาดและการสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นส่วนเสริม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่วนในด้านนักสะสมพบว่านักสะสมใช้ Be@rbrick เพื่อสร้างตัวตนโดยการแสดงอัตลักษณ์อันหลากหลายผ่านกิจกรรมการบริโภค นอกจากนี้การสร้างชุดสะสม Be@rbrick ยังสามารถสะท้อนถึงระดับของทุนทางเศรษฐกิจและทุนทางวัฒนธรรมที่มีของเจ้าของชุดสะสม โดยทุนทางเศรษฐกิจที่สูงจะส่งผลต่อจำนวนชิ้นและมูลค่าของชุดสะสม ทุนทางเศรษฐกิจที่น้อยลง ขนาดและมูลค่าของชุดสะสมก็จะลดน้อยตามไปด้วย ในขณะเดียวกันทุนทางวัฒนธรรมก็จะทำหน้าที่ในการเพิ่มคุณค่าของชุดสะสม ทุนทางวัฒนธรรมที่มากกว่าย่อมจะส่งเสริมให้นักสะสมสามารถใช้ความรู้ที่มีในการคัดเลือกชิ้นงานของสะสมให้ประกอบขึ้นเป็นชุดสะสมที่มีคุณค่ามากขึ้นตามทุนทางวัฒนธรรมที่มีของตน


โขนภายใต้การเปลี่ยนสังคมการเมืองไทย, วัชระพงศ์ เดชครุฑ Jan 2019

โขนภายใต้การเปลี่ยนสังคมการเมืองไทย, วัชระพงศ์ เดชครุฑ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาบทบาทของโขนภายใต้การเปลี่ยนสังคมการเมืองไทย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทไปในลักษณะต่าง ๆ โดยศึกษาว่ามีลักษณะใดบ้าง ใครเป็นผู้ดำเนินการเพื่อสร้างบทบาทใหม่ของโขนในแต่ละช่วงเวลา โดยศึกษาผ่านการวิเคราะห์โดยใช้แนวคิดการครองอำนาจนำผลจากการศึกษาพบว่า พัฒนาการและบทบาทของโขนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาถูกกำหนดโดยชนชั้นปกครอง สะท้อนออกมาในรูปแบบของการใช้โขนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง โดยบทบาทของโขนในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์แรกเริ่มเป็นการละเล่นเพื่อแสดงถึงสถานะและความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหากษัตริย์ ต่อมาบทบาทความศักดิ์สิทธิ์ถูกลดความสำคัญลงไป เหลือเพียงเป็นมหรสพการแสดงเพื่อแสดงศักดานุภาพของพระมหากษัตริย์และแสดงเพื่อความสำราญส่วนพระองค์ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 สถานะของโขนถูกเปลี่ยนแปลงหน่วยงานผู้ดูแลจากโขนในราชสำนักมาสู่โขนของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงครามได้สร้างบทบาทของโขนผูกกับความเป็นชาติ ต่อมา ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชเป็นผู้พัฒนาให้เกาะเกี่ยวคุณค่าของความเป็นไทยและสถาบันกษัตริย์ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของผู้ดำเนินการทั้งสิ้น ต่อมาเมื่อรัฐบาลเริ่มลดบทบาทการใช้โขนเป็นเครื่องมือทางการเมืองลง โขนจึงสามารถพัฒนาให้มีลักษณะเป็นมหรสพการแสดงเพื่อความบันเทิงสำหรับประชาชนอย่างแท้จริงในยุคสมัยนายเสรี หวังในธรรม ทำให้มีจำนวนผู้ชมเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลานี้ ซึ่งดำรงอยู่ได้ในระยะเวลาหนึ่ง และกลับมาประสบปัญหาความซบเซาในด้านจำนวนคนดูลงอีกครั้ง ต่อมากลุ่มสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้ดำเนินการผลิตโขนของตนเอง ในนามโขนศาลาเฉลิมกรุงและโขนพระราชทาน ซึ่งมีลักษณะเกาะเกี่ยวคุณค่าและอุดมการณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และสามารถทำให้การแสดงโขนกลับมาเป็นกระแสของคนดูอีกครั้ง เป็นการเน้นการรับรู้ถึงคุณค่าของสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะผู้อนุรักษ์งานศิลป์ของแผ่นดิน จะเห็นได้ว่ารูปแบบและวิธีการในการใช้โขนเป็นเครื่องมือทางการเมืองของชนชั้นปกครอง สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างภาวะการครองอำนาจนำทางวัฒนธรรมของชนชั้นปกครอง เพื่อตอบสนองต่อผลประโยชน์ต่อตัวผู้กระทำการเอง และยังส่งผลให้โขนเปลี่ยนแปลงบทบาทในลักษณะต่าง ๆ


การสร้างและรักษาฐานเสียงของพรรคการเมืองในจังหวัดเชียงรายระหว่างปีพ.ศ. 2544 - 2562, ศิริรัตน์ พิสัยเลิศ Jan 2019

การสร้างและรักษาฐานเสียงของพรรคการเมืองในจังหวัดเชียงรายระหว่างปีพ.ศ. 2544 - 2562, ศิริรัตน์ พิสัยเลิศ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์กลไกในการสร้างและรักษาฐานเสียงในจังหวัดเชียงรายของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดยใช้วิธีการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลจากการลงภาคสนาม การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลในพื้นที่ ตลอดจนการค้นคว้าข้อมูลจากเอกสารงานวิจัย และสถิติการเลือกตั้งที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย มีกลไกสำคัญในการสร้างและรักษาฐานเสียงในจังหวัดเชียงราย 4 กลไก คือ 1) นโยบายพรรค 2) ศูนย์ประสานงานพรรคการเมือง 3) ผู้สมัครสังกัดพรรค และ 4) หัวคะแนน พรรคไทยรักไทยมีความพยายามในการจัดตั้งกลไกทั้ง 4 ด้านเพื่อสร้างระบบการจัดการฐานเสียงรูปแบบใหม่ที่ยึดโยงกับพรรคโดยตรง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ให้ทำพรรคสามารถครองที่นั่งส.ส.ในทุกเขตของจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 - 2554 แต่ทั้งสามพรรคประสบความท้าทายในการสร้างและรักษาฐานเสียงจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน คือ การยึดติดตัวผู้นำพรรค และอิทธิพลของกลุ่มมุ้งภายในพรรค ทำให้การคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งถูกผูกขาดโดยคนใกล้ชิดแกนนำ และบทบาทของศูนย์ประสานงานพรรคยังถูกจำกัด เนื่องจากส.ส.หรือผู้สมัครมีบทบาทในการบริหารจัดการศูนย์ประสานงาน ทำให้ศูนย์ประสานงานขึ้นตรงกับส.ส.หรือผู้สมัครมากกว่าพรรค ปัจจัยภายนอก คือ การยุบพรรค และการรัฐประหาร ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้พรรคมีอุปสรรคในการพัฒนากลไกในการสร้างและรักษาฐานเสียงให้มั่งคง นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบว่า พรรคมุ่งเน้นชัยชนะในการเลือกตั้งเฉพาะหน้ามากกว่าการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อส่งเสริมการสร้างฐานเสียงระยะยาวของพรรค ตามทฤษฎีการสร้างความเข้มแข็งและประชาธิปไตยภายในพรรคการเมืองอย่างแนวคิดตะวันตก


ข่าวปลอมทางการเมืองบนเฟซบุ๊กในช่วงการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562, วิศรุต วงษ์น้อม Jan 2019

ข่าวปลอมทางการเมืองบนเฟซบุ๊กในช่วงการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562, วิศรุต วงษ์น้อม

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ลักษณะที่โดดเด่นของข่าวสารปลอมทางการเมืองบนเฟซบุ๊กในช่วงการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 (2) ปัจจัยที่นำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริง และ (3) กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนักการเมืองและพรรคการเมือง โดยใช้วิธีเชิงปริมาณ (Quantitative Methodology) คือ การวิเคราะห์เนื้อหาข่าวสารที่น่าสงสัยว่าจะเป็นข่าวปลอมทางการเมืองที่ปรากฏบนเพจทางการเมืองทั้งสองกลุ่มจำนวน 12 เพจ ได้แก่ (1) กลุ่มเพจที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและพรรคพลังประชารัฐ (Pro-military) และ (2) กลุ่มเพจที่สนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและพรรคอนาคตใหม่ (Pro-democracy) และใช้วิธีเชิงคุณภาพ (Qualitative Methodology) คือ การสัมภาษณ์ผู้ติดตามเพจทั้ง 27 คน ผลการศึกษาลักษณะที่โดดเด่นของข่าวสารปลอมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 โดยการวิเคราะห์เนื้อหาพบว่า ข่าวปลอมทางการเมืองในช่วงการเลือกตั้งเป็นข่าวสารปลอมที่ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีนักการเมืองและพรรคการเมืองและมีวิธีการนำเสนอที่ทำให้ผู้ติดตามเพจทางการเมืองเข้าใจผิด (Misleading) นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาผ่านกรณีศึกษาทั้งสองคือ (1) กรณีของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาและพรรคพลังประชารัฐ นั้นที่เกี่ยวข้องกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นข่าวสารปลอมทางการเมืองด้วยการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการออกนโยบายสาธารณะโดยข่าวปลอมดังกล่าวถูกจัดประเภทเป็นคลิกเบท (Click Bait) ที่มีรูปแบบการนำเสนอคล้ายกับสำนักข่าวกระแสหลัก (Imposter) และมีเนื้อหาที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยสมบูรณ์ (Fabrication) (2) กรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นข่าวสารทางการเมืองที่เป็นทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) และที่ผูกโยงเรื่องราวทางการเมืองเช่น the storyline to major political events such as changes in political regime, mass political conflicts, and interference attempt in the election by the US government ที่มาจาการผู้เขียนบทความที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง (fictitious personas) ทั้งนี้ การสัมภาษณ์เชิงลึกชี้ให้เห็นสถานการณ์และแรงจูงใจที่นำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้แก่ (1) การแบ่งขั้วทางการเมือง (Political Polarization) (2) การเปิดรับและติดตามเพจทางการเมือง (3) ความสะดวกในการตรวจสอบบนแพลตฟอร์มออนไลน์ …


ภาพลักษณ์นักการเมืองรุ่นใหม่และแนวโน้มการสนับสนุนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก, ปัญจพล ตั้งวิริยะ Jan 2019

ภาพลักษณ์นักการเมืองรุ่นใหม่และแนวโน้มการสนับสนุนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก, ปัญจพล ตั้งวิริยะ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยชิ้นนี้มีจุดประสงค์เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรการเปิดรับสื่อเกี่ยวกับนักการเมืองรุ่นใหม่ การรับรู้ภาพลักษณ์นักการเมืองรุ่นใหม่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก และแนวโน้มการสนับสนุนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก โดยศึกษากับนักการเมืองรุ่นใหม่ 3 คน ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยวิธีวิจัยเชิงสำรวจ โดยประชากรของงานวิจัย คือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกที่มีอายุ 18-25 หรือผู้ที่เกิดระหว่างปี 2537-2544 ซึ่งเป็นผู้ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร ในเขตกรุงเทพมหานครฯและปริมณฑลจำนวน 400 คน และนำมาประมวลผลข้อมูลผ่านโปรแกรม SPSS ผลการทดสอบสมมติฐานการวิจัยจำนวน 3 ข้อ ปรากฏดังนี้ 1. การเปิดรับสื่อเกี่ยวกับนักการเมืองรุ่นใหม่กับการรับรู้ภาพลักษณ์นักการเมืองรุ่นใหม่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมีความสัมพันธ์กัน ในระดับต่ำ 2. การรับรู้ภาพลักษณ์นักการเมืองรุ่นใหม่กับแนวโน้มการสนับสนุนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก มีความสัมพันธ์กัน ในระดับต่ำ 3. การเปิดรับสื่อเกี่ยวกับนักการเมืองรุ่นใหม่กับแนวโน้มการสนับสนุนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมีความสัมพันธ์กัน ในระดับต่ำ


อิทธิพลของประเภทผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดในอินสตาแกรม และรูปแบบการรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีต่อทัศนคติและความตั้งใจซื้อ, อัญมณี คงเจริญ Jan 2019

อิทธิพลของประเภทผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดในอินสตาแกรม และรูปแบบการรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีต่อทัศนคติและความตั้งใจซื้อ, อัญมณี คงเจริญ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจโดยประยุกต์ร่วมกับการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experiment Research) แบบ 3x2 แฟกทอเรียล มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลหลักและอิทธิพลรวมกันของ 2 ปัจจัย อันได้แก่ (1) ประเภทผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดในอินสตาแกรมในรูปแบบต่าง ๆ (เอ็นโดมอร์ฟี มีลักษณะ ท้วม และร่าเริง เมโซมอร์ฟี มีลักษณะ เป็นนักกีฬา ร่างกายสมส่วน และใจกว้าง และเอ็กโตมอร์ฟี มีลักษณะ ผอม และโลกส่วนตัวสูง) และ (2)รูปแบบการรีวิว (การทําซีดดิง และการไม่ซีดดิง) ที่ส่งผลต่อ ทัศนคติผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดในอินสตาแกรม ทัศนคติต่อผลิตภัณฑ์และความตั้งใจซื้อ โดยเก็บข้อมูลจากนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาจํานวน 180 คน ในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 ผลการวิจัยพบว่า ลักษณะประเภทผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดในอินสตาแกรมที่แตกต่างกันมีอิทธิพลต่อทัศนคติและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ส่วนรูปแบบในการรีวิวผลิตภัณฑ์บํารุงผิวหน้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันไม่มีอิทธิพลต่อทัศนคติและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ และเมื่อพิจารณาอิทธิพลร่วมกันพบว่าลักษณะประเภทผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดในอินสตาแกรมและรูปแบบในการรีวิวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่แตกต่างกันมีอิทธิพลร่วมต่อทัศนคติและความตั้งใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ เมื่อนำค่าเฉลี่ยของกลุ่มการทดลองออกทั้งหมด 6 กลุ่ม รูปแบบการรีวิวแบบซีดดิงและลักษณะประเภทผู้ทรงอิทธิพลที่มีลักษณะ ผอมและโลกส่วนตัวสูง มีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มอื่น จึงนำไปประยุกต์ในการสื่อสารการตลาดทางอินสตาแกรม หากต้องการให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษาเกิดทัศนคติเชิงบวกและความตั้งใจซื้อผลิตภัณฑ์บํารุงผิวหน้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ควรใช้รูปแบบการรีวิวแบบซีดดิงและลักษณะประเภทผู้ทรงอิทธิพลที่มีลักษณะผอมและโลกส่วนตัวสูง


การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการยอมรับการใช้สารกำจัดวัชพืชพาราควอตของเกษตรกรและผู้บริโภค, สราวุธ บูรพาพัธ Jan 2019

การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการยอมรับการใช้สารกำจัดวัชพืชพาราควอตของเกษตรกรและผู้บริโภค, สราวุธ บูรพาพัธ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรมการยอมรับการใช้สารกำจัดวัชพืชพาราควอตของเกษตรกรและผู้บริโภค 2) ความแตกต่างทางลักษณะทางประชากรกับการเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการยอมรับการใช้สารกำจัดวัชพืชพาราควอต 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรมการยอมรับฯ และ 4) ปัจจัยที่สามารถอธิบายพฤติกรรมการยอมรับการใช้สารกำจัดวัชพืชพาราควอตได้ระหว่างปัจจัยการเปิดรับข่าวสาร ความรู้ และทัศนคติ สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วประเทศ จำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ ได้แก่ ร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบจำแนกทางเดียว ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างเกษตรกรและผู้บริโภค มีการเปิดรับความข่าวสารในระดับต่ำมาก มีความรู้ในเรื่องดังกล่าวระดับปานกลาง มีทัศนคติเป็นกลาง และพฤติกรรมการยอมรับฯตั้งใจที่จะทำ โดย 2) กลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะทางประชากรแตกต่างกัน มีการเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการยอมรับฯ แตกต่างกัน 3) การเปิดรับข่าวสารไม่มีความสัมพันธ์กับความรู้และทัศนคติแต่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการยอมรับฯ ความรู้มีความสัมพันธ์กับทัศนคติและพฤติกรรมการยอมรับฯ เช่นเดียวกับ ทัศนคติมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการยอมรับฯ รวมทั้ง การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ มีความสัมพันธ์ระดับปานกลางและมีอิทธิพลร้อยละ 29.20 ต่อพฤติกรรมการยอมรับฯ 4) ปัจจัยที่สามารถอธิบายพฤติกรรมการยอมรับการใช้สารกำจัดวัชพืชพาราควอตได้ดีที่สุด คือ ทัศนคติ