Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Social and Behavioral Sciences Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Discipline
Institution
Keyword
Publication Year
Publication
Publication Type
File Type

Articles 361 - 390 of 713427

Full-Text Articles in Social and Behavioral Sciences

Awareness Project For Young Children To Encourage Social Harmony, Appreciation Of The Local Environment, Utilization Of Natural Resources And Environmental Sustainability, Sulak Sriburi, Ariyaporn Kuroda Jan 2027

Awareness Project For Young Children To Encourage Social Harmony, Appreciation Of The Local Environment, Utilization Of Natural Resources And Environmental Sustainability, Sulak Sriburi, Ariyaporn Kuroda

Applied Environmental Research

The purposes of this research were to propose and develop models of children’s awareness in order to encourage social harmony, appreciation of the local environment, pride for art and culture, the dissemination of Esan local wisdom and facilitation of planning in the use and preservation of natural resources. The results of the study and the proposed models are tactics for encouraging ideas and inculcating attitudes and values to children who are future adults. Through an awareness of current problems and consequences of destruction of natural resources the future quality and sustainability of village life will be ensured. Temples had a …


คุณภาพอากาศ ระดับเสียง และขีดความสามารถในการรองรับได้บนเกาะช้าง, อรุณศักดิ์ โสภณธรรมภาณ, ทวีวงศ์ ศรีบุรี, ทรรศนีย์ พฤกษาสิทธิ์ Jan 2027

คุณภาพอากาศ ระดับเสียง และขีดความสามารถในการรองรับได้บนเกาะช้าง, อรุณศักดิ์ โสภณธรรมภาณ, ทวีวงศ์ ศรีบุรี, ทรรศนีย์ พฤกษาสิทธิ์

Applied Environmental Research

เกาะช้าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติที่มีศักยภาพสูง มีนักท่องเที่ยวตลอดปีอีกทั้งมีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ และมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงควรเฝ้าระวังปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นระยะ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่า ช่วงการท่องเที่ยวน้อย มลสารที่สูงเกินมาตรฐาน คือฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน วิเคราะห์เป็นดัชนีคุณภาพอากาศเท่ากับ 108 เนื่องจากมีการก่อสร้างมาก สำหรับช่วงการท่องเที่ยวมาก ไม่มีค่าใดเกินมาตรฐาน เพราะถูกระงับการก่อสร้างเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
ผลการวิเคราะห์ระดับเสียงเฉลี่ยในเวลา 24 ชั่วโมง จำนวน 3 สถานีในช่วงการท่องเที่ยวน้อยคือ หาดทรายขาว 66.8 เดซิเบล ชุมชนบางเบ้า 59.9 เดซิเบล และชุมชนสลักเพชร 56.6 เดซิเบล และระดับเสียงเฉลี่ยในเวลา 24 ชั่วโมงในช่วงการท่องเที่ยวมากของหาดทรายขาวคือ 65.7 เดซิเบล ชุมชนบางเบา 61.9 เดซิเบล และชุมชนสลักเพชร 52.3 เดซิเบล ซึ่งไม่มีสถานีใดที่ระดับเสียงเกินค่ามาตรฐาน
ผลการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนพบว่า คุณภาพอากาศบริเวณ ชายหาดอยู่ในเกณฑ์ดีมาก บริเวณถนนอยู่ในเกณฑ์ดีและปานกลาง ยอมรับได้รอยละ 95 ระดับเสียงบริเวณชายหาดไม่ดังรบกวน แต่บริเวณถนนร้อยละ 33 คิดว่าระดับเลียงดังแต่ก็ยอมรับได้ร้อยละ 90 ส่วนชุมชนบางเบา และชุมชนสลักเพชรประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าระดับเลียงไม่ดัง เมื่อนำผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระดับเสียง และผลการสอบถามมาวิเคราะห์ขีดความสามารถในการรองรับได้พบว่า เกาะช้างยังไม่เกินขีดความสามารถในการรองรับได้
แนวทางในการจัดการปัญหาและลดระดับผลกระทบให้แหล่งท่องเที่ยวไม่เกินขีดความสามารถในการรองรับ ได้แก่ กำหนดให้รถบรรทุกคลุมผ้าใบขณะขนส่ง การก่อสร้างอาคารต้องมีอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น ลดปริมาณการนำรถยนต์ขึ้นเกาะ และ พัฒนาระบบการขนล่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


The Impact Of A Play-Based Nature Camp On Self-Regulation In School-Age Children, Margaret Berkemeyer Dec 2026

The Impact Of A Play-Based Nature Camp On Self-Regulation In School-Age Children, Margaret Berkemeyer

Doctoral Dissertations

This study is a program evaluation with a mixed-methods design that evaluated the effectiveness of Y Rangers, a summer camp offered by the YMCA of San Francisco, in increasing the self-regulation abilities of school-age children. A total of 18 caregivers completed the quantitative portion of this study that included pre/post-test analyses of self-regulation measures. There were no statistically significant changes between pre and post assessments of self-regulation. A subset of seven caregivers and three Y Rangers counselors participated in interviews, the transcripts of which were analyzed using interpretive phenomenological analysis. Caregivers experienced Y Rangers as a unique opportunity for their …


The Relationship Between Acculturative Stress, Body Dissatisfaction, And Disordered Eating Behavior Among Latina Women In The United States, Emily Lillian Johnson Dec 2026

The Relationship Between Acculturative Stress, Body Dissatisfaction, And Disordered Eating Behavior Among Latina Women In The United States, Emily Lillian Johnson

Doctoral Dissertations

The majority of research on body dissatisfaction and disordered eating behaviors focuses predominantly on the experiences of white women, neglecting the significant impact of acculturative stress on these issues, especially among understudied groups like Latina women. The present study seeks to address the gap in the literature by obtaining data that explores the extent to which acculturative stress, body dissatisfaction, and disordered eating behavior have a relationships. Additionally, it investigates the roles of cultural values and ethnic identification in protecting against body dissatisfaction and disordered eating behavior within this population. To determine whether acculturative stress is predictive of body dissatisfaction …


การดูดซับตะกั่วจากน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้ซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีน, จุรีรัตน์ ทองทาย, เขมรัฐ โอสถาพันธุ์, สุธา ขาวเชียร Jul 2026

การดูดซับตะกั่วจากน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้ซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีน, จุรีรัตน์ ทองทาย, เขมรัฐ โอสถาพันธุ์, สุธา ขาวเชียร

Applied Environmental Research

การวิจัยครั้งนี้ศึกษาความสามารถในการดูดซับตะกั่วในน้ำเสียสังเคราะห์ของ ซิลิกาเจลที่เคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีน (Polyethyleneimine หรือ PEI) ซึ่งทำการศึกษาที่ความเข้มข้นต่ำ โดยได้ทดลองเตรียมซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีน (Sil/PEI) และหาอัตราส่วนในการเคลือบที่เหมาะสม แล้วนำมาทดลองกำจัดน้ำเสียสังเคราะห์ตะกั่วโดยการทดลองแบบแบตซ์ ที่พีเอชช่วง 4-7 และศึกษาผลของความแรงไอออน (Ionic strength) ต่อความสามารถในการดูดซับ แล้วเลือกพีเอช ที่เหมาะสมเพื่อนำไปศึกษาความสามารถในการดูดซับโดยใช้การทดลองแบบคอลัมน์
จากการทดลองเตรียมซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีนพบว่าการเตรียมด้วยวิธี ชิมแพรกเนชั่นแบบแห้ง (Dry Impregnation) ในอัตราส่วนการเคลือบร้อยละ 5 โดยน้ำหนักต่อปริมาตรของสารละลายโพสีเอทธิสีนไอมีนในเมทานอล เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด และผลการทดลองความสามารถในการดูดซับตะกั่วโดยการทดลองแบบแบตซ์ พบว่าที่พีเอช 4 และ 5 ไม่สามารถกำจัดตะกั่วได้ และความสามารถในการดูดซับตะกั่วจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับซิสิกาเจลที่พีเอช 6 โดยผลของการดูดซับตะกั่วที่ความเข้มข้นเริ่มต้น 5 มิลลิกรัมต่อลิตร ซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีนสามารถดูดซับตะกั่วได้ 6.72 มิลลิกรัมต่อตัวกลาง 1 กรัม คิดเป็นร้อยละ 59.18 และซิลิกาเจลสามารถดูดซับตะกั่วได้ 3.02 มิลลิกรัมต่อคัวกลาง 1 กรัม คิดเป็นร้อยละ 26.71 และความสามารถในการดูดซับจะเพิ่มขึ้นเมื่อความเข้มข้นเริ่มต้นเพิ่มขึ้น ส่วนที่พีเอช 7 ในช่วงความเข้มข้นเริ่มต้นต่ำกว่า 10 มิลลิกรัมต่อลิตร ซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีนมีความสามารถใน การดูดซับใกล้เคียงกับซิลิกาเจล ผลการศึกษาผลของความแรงไอออนพบว่า ความแรงไอออนไม่มีผลต่อความสามารถในการดูดซับตะกั่ว และผลการศึกษาแบบคอลัมน์ พบว่าความสามารถในการดูดซับตะกั่วของ ซิลิกาเจลเคลือบด้วยโพลีเอทธิลีนไอมีนมี ค่ามากกว่าซิลิกาเจสอย่างชัดเจน และที่ อัตราการไหล 5 มิลลิลิตรต่อนาที และ 10 มิลลิลิตรต่อนาที พบว่ามีความสามารถใน การดูดซับใกล้เคียงกัน


การดูดซับไซยาไนด์ โครเมียมและสังกะสีจากน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้อะลูมินาที่เคลือบผิวด้วยนิกเกิล, ภาคย์ ชาตรี, เจิดศักดิ์ ไชยคุนา, สุธา ขาวเธียร Jul 2026

การดูดซับไซยาไนด์ โครเมียมและสังกะสีจากน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้อะลูมินาที่เคลือบผิวด้วยนิกเกิล, ภาคย์ ชาตรี, เจิดศักดิ์ ไชยคุนา, สุธา ขาวเธียร

Applied Environmental Research

งานวิจัยนี้ศึกษาประสิทธิภาพการดูดซับไซยาไนด์ โครเมียมและสังกะสี โดยใช้ อะลูมินาและนิกเกิลออกไซด์เป็นตัวกลางในการดูดซับ แบ่งการทดลองเป็นแบบแบตซ์และแบบต่อเนื่องโดยใช้น้ำเสียสังเคราะห์ซึ่งเป็นตัวแทนของน้ำเสียจากโรงงานชุบโลหะ ผลการทดลองแบบแบตซ์พบว่า ในกรณีน้ำเสียสังเคราะห์ไซยาไนด์อย่างเดียวหรือ สังกะสีอย่างเดียว นิกเกิลออกไซด์มีประสิทธิภาพในการดูดซับมากกว่าอะลูมินา แต่ค่าความสามารถในการดูดซับของตัวกลางทั้งสองชนิดมีค่าตามาก ทำให้ อะลูมินาและนิกเกิลออกไซด์ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ดูดซับไซยาไนด์อย่างเดียวหรือ สังกะสีอย่างเดียว ส่วนในกรณีที่น้ำเสียสังเคราะห์ประกอบด้วยไซยาไนด์ โครเมียม และสังกะสี นิกเกิลออกไซด์มีประสิทธิภาพ ในการดูดซับไซยาไนด์และสังกะสีมากกว่า อะลูมินา ความสามารถในการดูดซับไซยาไนด์เพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นสังกะสีที่เพิ่มสูงขึ้น ปริมาณไซยาไนด์ที่มากเกินพอมี ผลรบกวนการดูดซับสารประกอบเชิงซ้อน สังกะสีไซยาไนด์ ทำให้ความสามารถในการ ดูดซับไซยาไนด์และสังกะสีลดลงที่สภาวะสมดุลสัดส่วน โมลไซยาไนด์ต่อสังกะสีที่ถูกดูดซับบนนิกเกิลออกไซด์เป็นไปตามรูปสารประกอบเชิงซ้อนสังกะสีไซยาไนด์ที่มีในระบบ โดยที่อัตราส่วนไซยาไนด์:โครเมียม: สังกะสี เท่ากับ 50:20:100 มีค่า 1:1 อัตราส่วน 100:20:100 มีค่า 1.5:1 และ อัตราส่วน 200:20:100 มีค่า 3:1 ตามลำดับ ผลการทดลองแบบต่อเนื่องพบว่านิกเกิลออกไซด์มีประสิทธิภาพในการดูดซับไซยาไนด์และสังกะสีมากกว่าอะลูมินา ที่ อัตราการไหล 8 และ 4 มิลลิลิตรต่อนาที พบว่าเวลาสัมผัสที่มากขึ้นมีผลให้ความ สามารถในการดูดซับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ความเข้มข้นไซยาไนด์ที่มากเกินพอมีผลรบกวนการดูดซับสารประกอบเชิงซ้อน สังกะสีไซยาไนด์ ทำให้ความสามารถในการดูดซับไซยาไนด์และสังกะสีลดลงที่จุดเบรคทรู (Break through) สัดส่วน โมลไซยาไนด์ต่อสังกะสีที่ถูกดูดซับบนนิกเกิลออกไซด์ เป็นไปตามรูปของสารประกอบเชิงซ้อนสังกะสีไซยาไนด์ที่มีในระบบ ซึ่งอัตราส่วน ต่างๆ มีค่าใกล้เคียงกับการทดลองแบบแบตซ์


การแทรกตัวของเถ้าลอยลิกไนต์ในช่องระหว่างเม็ดดินของดินนา, อรวรรณ ศิริรัตน์พิริยะ, ตวงสรวง สกุลกลจักร, ธวัชชัย ณ นคร, จินดารัตน์ ชื่นรุ่ง Jul 2026

การแทรกตัวของเถ้าลอยลิกไนต์ในช่องระหว่างเม็ดดินของดินนา, อรวรรณ ศิริรัตน์พิริยะ, ตวงสรวง สกุลกลจักร, ธวัชชัย ณ นคร, จินดารัตน์ ชื่นรุ่ง

Applied Environmental Research

การศึกษาถึงการแทรกตัวของเถ้าลอยลิกไนต์ต่อสมบัติทางกายภาพของดินนาในแปลงนาเกษตรกรตำบลดอนยอ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ซึ่งพื้นที่นาบางส่วนเคยเติมเถ้าลอยลิกไนต์มาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2541 ด้วยแผนการทดลองแบบ Randomize Complete Block Design ทำ 3 ซ้ำ โดย เดิมเถ้าลอยลิกไนต์อัตรา 2 ตัน/ไร่ และปุ๋ยเคมีอัตรา 25 กก./ไร่ ลงในพื้นที่ที่เคยเติมเถ้าลอยลิกไนต์ เก็บตัวอย่างดินภายหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วมาศึกษาวิจัยพบว่า เถ้าลอยลิกไนต์ที่เติมลงในดินนาได้แทรกตัวอยู่ในช่องระหว่างเม็ดดิน มีส่วนทำให้ปริมาณน้าที่พืชใช้ประโยชน์ได้ในดินที่ไม่ เคยเดิมเถ้าลอยลิกไนต์เพิ่มขึ้นจาก 2.62 เป็น 3.26 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้จะมากที่สุด (3.65 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร) เมื่อเติมเถ้าลอยลิกไนต์ลงในพื้นที่เดิมอีกครั้งร่วมกับปุ๋ยเคมี สำหรับความหนาแน่นรวมของดินนา (1.09 ก./ลบ.ซม.) ลดลงเมื่อเดิมเถ้าลอยลิกไนต์ (1.05 ก./ลบ.ซม.) และเพิ่มขึ้นเมื่อ เติมปุ๋ยเคมี (1.07 ก./ลบ.ซม.) ดังนั้น การแทรกตัวของเถ้าลอยลิกไนต์ในช่องระหว่างเม็ดดินของดินนาน่าจะช่วยส่งเสริมให้เพิ่มปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้ ลดความหนาแน่นรวม และเพิ่มความพรุนของดินนา โดยไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อดินซึ่งเป็นดินเหนียว


การวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการประเมินวัฏจักรชีวิตของการผลิตกระดาษในประเทศไทย: กรณีศึกษาที่ 1 การผลิตกระดาษลอนลูกฟูกด้วยกระบวนการผลิตที่มีรายละเอียดการใช้วัตถุดิบการผลิตต่างๆ กัน, พรทิพย์ วงศ์สุโชโต, คุณาวุฒิ บุญญานพคุณ, วิทย์ สุนทรนันท์, พรพจน์ เปี่ยมสมบูรณ์, ประเสริฐ ภวสันต์ Jul 2026

การวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการประเมินวัฏจักรชีวิตของการผลิตกระดาษในประเทศไทย: กรณีศึกษาที่ 1 การผลิตกระดาษลอนลูกฟูกด้วยกระบวนการผลิตที่มีรายละเอียดการใช้วัตถุดิบการผลิตต่างๆ กัน, พรทิพย์ วงศ์สุโชโต, คุณาวุฒิ บุญญานพคุณ, วิทย์ สุนทรนันท์, พรพจน์ เปี่ยมสมบูรณ์, ประเสริฐ ภวสันต์

Applied Environmental Research

การประเมินวัฏจักรชีวิตกระดาษในงาน วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อได้ทราบผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการผลิตกระดาษ ลูกฟูกแบบต่าง ๆ โดยทำการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อการประเมินวัฏจักรชีวิตสำหรับการผลิตกระดาษเพื่อสร้างฐานข้อมูล โดย กำหนดขอบเขตการประเมินวัฏจักรชีวิตให้สิ้นสุดที่ผลิตภัณฑ์กระดาษเท่านั้น โดยยังไม่คำนึงถึงขั้นตอนการจำหน่าย การใช้งาน และการจัดการของเสียจากการใช้กระดาษสำหรับประเภทของกระดาษที่เสือกศึกษาในโครงการนี้คือกระดาษลอนลูกฟูก ซึ่งข้อมูลการผลิตกระดาษและเยื่อกระดาษเป็นข้อมูล ปฐมภูมิที่ได้จากความร่วมมือของโรงงานในกลุ่มการผลิตเยื่อและกระดาษ ส่วนข้อมูลการผลิตในช่วงวัฏจักรชีวิตอื่น ๆ นั้นจะเป็นข้อมูลทุติยภูมิที่ได้จากรายงานวิจัยอื่น ได้แก่ NOH Report 9523 (1996), GRI Reports (2003) ส่วนการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้จัดจำแนกตามกลุ่มผลกระทบ (Impact categories) 7 กลุ่มด้วยกัน คือ การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก หรือ ภาวะโลกร้อน (Greenhouse effect หรอ Global warming) การลดลงของปริมาณโอโซนในชั้นบรรยากาศ (Ozone layer depletion) การ เกิดปรากฏการณ์ฝนกรด (Acidification) การปลดปล่อยโลหะหนัก (Heavy metals) การปลดปล่อยสารก่อมะเร็ง (Carcinogens substance) การเกิดโอโซนบนชั้นผิวโลก (Summer smog) การบริโภคทรัพยากรเชื้อเพลิงสิ้นเปลืองหรือพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป (Energy resource depletion) และทำการเปรียบเทียบผลการประเมินจากการผลิตกระดาษลอนลูกฟูกที่มีรายละเอียดการผลิตต่างกัน เพื่อที่จะได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับจากประเมินวัฏจักรชีวิต


Benzene Toluene And Xylene In Gasoline Automobile Emissions, Teerawet Titseesang, Noppaporn Panich, Thitima Rungratanaubon Jul 2026

Benzene Toluene And Xylene In Gasoline Automobile Emissions, Teerawet Titseesang, Noppaporn Panich, Thitima Rungratanaubon

Applied Environmental Research

The exhaust emissions of the air toxic benzene, toluene and xylene (BTX) from gasoline automobiles with and without catalytic converter have been measured in the idle mode condition. The exhaust gas samples from tailpipe were collected by tedlar bag in the vacuum box. The automobile samples were classified into four different groups as follows : (1) the new automobile (less than 5 years old) with catalytic converter, (2) moderate-age automobile (5-10 years old) with catalytic converter, (3) the moderateage automobile (5-10 years old) without catalytic converter and (4) the old automobile (more than 10 years old) without catalytic converter. The …


การกระจายอำนาจในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, สุนีย์ มัลลิกะมาลย์ Jul 2026

การกระจายอำนาจในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, สุนีย์ มัลลิกะมาลย์

Applied Environmental Research

บทบาท อำนาจ และหน้าที่ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ในการพิทักษ์รักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย นั้นเป็นไปตามหลักการการกระจายอำนาจ ซึ่งมีกฎหมายรองรับที่สำคัญ 2 ฉบับคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 290 และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และหลักการนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นก็มีความคล้ายคลึงกับของไทย ที่ยอมรับว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบนั้นจำเป็นต้องมีการกระจายอำนาจจากราชการส่วนกลางสู่ส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะการพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่มีความเกี่ยวพันโดยตรง กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จากการวิจัยพบว่า อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านการพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น อยู่ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 2 กลุ่มคือ กลุ่มกฎหมายที่มีบทบัญญัติกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว กับกลุ่มกฎหมายที่ยังไม่ได้มีการกระจายอำนาจให้แด่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นปัญหาและอุปสรรคด้านการถ่ายโอนภารกิจด้านนี้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ ดังนั้นการวิจัยจึงได้มีข้อเสนอให้ปรับปรุงแก้ไขภายใต้แนวทาง ดังนี้
1. แนวทางการดำเนินการปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย โดยกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็งเป็นรูปธรรม เช่น การจัดทำแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่ปกครอง การเข้าร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการริเริ่มโครงการหรือกิจการการมีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น
2. แนวทางการปรับปรุงแก้ไขแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2545 โดยการปรับปรุงแก้ไขภารกิจเพียงเท่าที่มีอยู่ และหากจะเพิ่มภารกิจใหม่ ก็ให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ด้านการ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
3. แนวทางการเพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมแก่บุคลากรองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการจัดทำหลักสูตรอบรมความรู้ด้านการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริหารระดับนโยบาย และผู้ปฏิบัติงานขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น


ศักยภาพที่ก่อมลพิษต่อประสิทธิภาพการใช้หญ้าแฝกบำบัดน้ำเสีย, มงคล ต๊ะอุ่น, สันติภาพ ปัญจพรรค์, พัชรี ธีรจินดาขจร, วันเพ็ญ วิโรจน์กูฎ Jul 2026

ศักยภาพที่ก่อมลพิษต่อประสิทธิภาพการใช้หญ้าแฝกบำบัดน้ำเสีย, มงคล ต๊ะอุ่น, สันติภาพ ปัญจพรรค์, พัชรี ธีรจินดาขจร, วันเพ็ญ วิโรจน์กูฎ

Applied Environmental Research

การประยุกต์ใช้หญ้าแฝกในการปรับปรุงคุณภาพน้ำเสียของหนองน้ำที่เกิดจากแหล่งศักยภาพที่ก่อมลภาวะที่แตกต่าง กันคือ 1) ระยะทาง/ศักยภาพที่ได้รับมลพิษมากที่สุด 2) ระยะทาง/ศักยภาพที่ได้รับมลพิษมาก 3) ระยะทาง/ศักยภาพที่ ได้รับมลพิษปานกลาง และ 4) ระยะทาง/ศักยภาพที่ได้รับมลพิษน้อย โดยใช้หญ้าแฝกพันธุ์สงขลา 3 เป็นการวางแผนการทดลอง แบบ RCBD 3 ซ้ำ การศึกษาพบว่าหญ้าแฝกสามารถทำให้ค่า TDS, EC และ pH เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยไปในทางที่ดี ขณะที่ค่า DO และ BOD มีการเปลี่ยนแปลงมากตามฤดูกาลโดยเฉพาะฤดูร้อนมีผลกระทบ มาก เช่น 1) ระยะทาง/ศักยภาพที่ได้รับมลพิษมากที่สุด 2) ระยะทาง/ศักยภาพที่ได้รับมลพิษมาก 3) ระยะทาง/ศักยภาพที่ได้รับมลพิษปานกลางและ 4) ระยะทาง/ ศักยภาพที่ได้รับมลพิษน้อย มีค่า BOD เฉลี่ยเท่ากับ 85, 84, 68 และ 76 มก./ลิตร ตามลำดับ ขณะที่แหล่งมลพิษมีค่าเท่ากับ 398 มก./ลิตร ส่วนค่า DO มีค่าเท่ากับ 3.2, 3.3, 3.8 และ 4.1 มก./ลิตรตามลำดับ ขณะ ที่แหล่งมลพิษมีค่าเท่ากับ 2.9 มก./ลิตร หญ้าแฝกสามารถเจริญเติบโตได้ดีในน้ำเสียแม้จะอยู่บนหนองน้ำเป็นเวลานานถึง 12 เดือนโดยทำให้การเจริญเติบโตทางด้านลำต้น (น.น.แห้ง) เฉลี่ยเท่ากับ 16.72 กก./ ตร.ม. ขณะที่รากมีค่าเท่ากับ 5.33 กก./ตร.ม.


Clinician Perspectives On Fistula Mental Health, Victoria K. Leonard May 2026

Clinician Perspectives On Fistula Mental Health, Victoria K. Leonard

Doctoral Dissertations

Background – Obstetric fistula is a childbirth injury caused by prolonged labor that leads to stillbirth and incontinence, spurring social exclusion and isolation. These layers of trauma put women with fistula at great risk for psychological suffering, which has profound negative socioeconomic impacts on them, their families, and communities. This study captured treatment as usual at Comprehensive Community Based Rehabilitation in Tanzania (CCBRT), the country’s largest provider of fistula care.

Method – Improving holistic fistula treatment requires engaging the clinicians who care for women with fistula. This study aimed to investigate the training, beliefs, and treatment approaches of nurses and …


Does Self-Compassion Buffer Against The Potential Effects Of Perfectionism And Psychopathology On Non-Suicidal Self-Injury?, Natasha Bourgoin May 2026

Does Self-Compassion Buffer Against The Potential Effects Of Perfectionism And Psychopathology On Non-Suicidal Self-Injury?, Natasha Bourgoin

Electronic Theses and Dissertations

University students with increased rates of reported perfectionism, anxiety, and depression, are vulnerable to non-suicidal self-injury (NSSI). However, not all students with psychological distress engage in NSSI, suggesting protective factors may help to mitigate this risk. The present study examined the relation between perfectionism and NSSI, via the mediating effects of anxiety and depression, and the moderating role of self-compassion. Participants were 338 university students (67% female; 87% White) who completed several self-report measures. Students with greater perfectionism reported higher levels of anxiety and depressive symptoms and, in turn, more NSSI engagement. Self-compassion and several self-compassionate domains attenuated connections between …


Women's Work And Wealth: Measuring The Impact Of Incremental Liberations, 1850-1870, Hannah Kelly Jan 2026

Women's Work And Wealth: Measuring The Impact Of Incremental Liberations, 1850-1870, Hannah Kelly

Williams Honors College, Honors Research Projects

Using a two-way fixed effects difference-in-difference model, this project analyzes data from the IPUMS Full Count census for 1850, 1860, and 1870 at a state level for 48 states. Four models assess the impact of property laws on women's real property holdings, labor force participation, household types, and real property values.

By quantifying the impact of various legal reforms on women's economic empowerment, this project fills a gap in the understanding of the intersection between law, society, and women's economic agency during a transformative period in pre-industrial American history. These impacts can implicate the effectiveness of legislative measures in advancing …


Teacher-Implemented Scaffolding, Sara Dominguez, Vanessa Svihla Jan 2026

Teacher-Implemented Scaffolding, Sara Dominguez, Vanessa Svihla

Organization, Information and Learning Sciences ETDs

Teacher-implementing scaffolding is fundamental in teaching that was disrupted by the sudden move to emergency remote teaching during the pandemic.  A review of research found trends based on grade and subject and that teacher’s responsiveness was the main contingent processes reported.  Based on this a survey was developed and an exploratory factor analysis was completed.  An analysis of the survey results found differences in teacher agency, self-efficacy, and the supports used when comparing in-person and online teacher-implemented scaffolding.  Qualitative results further support findings and describe teachers’ perspective on the change to the environment, adaptations made, and hinderances noted while supporting …


การกำจัดไอออนตะกั่วจากน้ำเสียด้วยตะกอนจุลินทรีย์, ชยาภาส ทับทอง Jan 2026

การกำจัดไอออนตะกั่วจากน้ำเสียด้วยตะกอนจุลินทรีย์, ชยาภาส ทับทอง

Applied Environmental Research

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการกำจัดไอออนตะกั่วของ ตะกอนจุลินทรีย์ที่ไม่มีชีวิต โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสารละลายเริ่มต้นและปริมาณการใช้ตะกอนจุลินทรีย์ ตะกอน จุลินทรีย์ที่ใช้เป็นวัสดุดูดซับในการทดลองนี้มี 3 ชนิด โดย 2 ชนิดแรก คือ AS-P และ MUR-P ได้จากระบบบำบัดน้ำเสีย Activated Sludge และ Upflow Anaerobic Sludge Blanket ของอุตสาหกรรมน้ำอัดลม ส่วนชนิดที่ 3 คือ CASS-N ได้จากระบบบำบัดน้ำเสีย Cyclic Activated Sludge System ของโรงควบคุมคุณภาพน้ำ กรุงเทพมหานคร ตะกอนจุลินทรีย์ที่ได้จะนำมาล้างด้วยน้ำกลั่น อบแห้งในตู้อบที่อุณหภูมิ 105°C บดและแยกขนาดให้ได้อนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 106-150 ไมโครเมตร จากผลการทดลองพบว่าการดูดซับจะเข้าสู่สมดุลที่เวลา 15 นาที โดยมีเปอร์เซ็นต์การกำจัดไอออนตะกั่วสูงถึง 94-99 เปอร์เซ็นต์ ที่ความเข้มข้นของสารละลายเริ่มต้น 60 มิลลิกรัมต่อลิตร นอกจากนี้ ยังใช้สมการไอโซเทอร์มการดูดซับของ แลงเมียร์ (Langmuir adsorption isotherm) และไอโซเทอร์มการดูดซับของฟรุนด์ลิช (Freundlich adsorption isotherm) มาใช้ ทำนายผลการทดลองพบว่าสมการไอโซเทอร์มการดูดซับทั้ง 2 สมการ สามารถใช้ทำนายผลการทดลองได้ดี ค่า KF ที่สูง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดูดซับไอออน ตะกั่ว ของตะกอนจุลินทรีย์ทั้ง 3 ชนิดสูง ส่วนปริมาณไอออนโลหะหนักตะกั่วที่ถูกดูดซับสูงสุด (qm) ของ AS-P, MUR-P และ CASS-N ที่ได้จากสมการไอโซเทอร์มการดูดซับของแลงเมียร์ มีค่าเป็น 253, 248 และ 247 มิลลิกรัมโลหะต่อกรัมวัสดุดูดซับ ตามลำดับ


ผลของสัดส่วนอัตราไหลเข้าต่ออัตราไหลเวียนกลับที่มีต่อประสิทธิภาพ การบำบัดน้ำเสียชุมชนด้วยระบบบำบัดไร้อากาศแบบอีจีเอสบี, สุชัญญา ทองเครือ, ชวลิต รัตนธรรมสกุล Jan 2026

ผลของสัดส่วนอัตราไหลเข้าต่ออัตราไหลเวียนกลับที่มีต่อประสิทธิภาพ การบำบัดน้ำเสียชุมชนด้วยระบบบำบัดไร้อากาศแบบอีจีเอสบี, สุชัญญา ทองเครือ, ชวลิต รัตนธรรมสกุล

Applied Environmental Research

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของระบบบำบัดไร้อากาศแบบอีจีเอสบีในการบำบัดน้ำเสียชุมชน ประเภทอาคารเรียน จากอาคารเจริญวิศวกรรม คณะ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าเมื่อความเร็วไหลขึ้นคงที่เท่ากับ 4.5 ม./ชม. และเปลี่ยนแปลงสัดส่วนอัตราไหลเข้าต่ออัตราไหลเวียนกลับเป็น 1:3, 1:7, 1:1 และ 1:15 ระบบมีประสิทธิภาพในการกำจัดซีโอดีเฉลี่ยเท่ากับ 69.2, 72.6, 76.3 และ 74.6% ตามลำดับ ประสิทธิภาพในการกำจัดบีโอดีเฉลี่ยเท่ากับ 72.7, 73.5, 76.6 และ 75.6% ตามลำดับ และประสิทธิภาพในการกำจัดของแข็งแขวนลอยเฉลี่ยเท่ากับ 74.0, 77.4, 81.7 และ 73.3% ตามลำดับและคุณภาพน้ำทิ้งออกจากระบบอีจีเอสบีผ่านมาตรฐานน้ำทิ้งอาคาร


พฤติกรรมการเคลื่อนที่ของอาร์เซนิคในชั้นน้ำใต้ดิน, กิตติพงษ์ นิลบุตร, ธนัชพร อยู่ยั่งยืน, เขมรัฐ โอสถาพันธุ์, สุธา ขาวเธียร Jan 2026

พฤติกรรมการเคลื่อนที่ของอาร์เซนิคในชั้นน้ำใต้ดิน, กิตติพงษ์ นิลบุตร, ธนัชพร อยู่ยั่งยืน, เขมรัฐ โอสถาพันธุ์, สุธา ขาวเธียร

Applied Environmental Research

งานวิจัยนี้เป็นศึกษาพฤติกรรมการ เคลื่อนที่ของอาร์เซนิคในรูปของอาร์เซไนท์ และอาร์เซเนตในสภาวะน้ำใต้ดินโดยทำการ ทดลองกับดินตัวอย่าง 3 กลุ่มดิน คือ ดินร่วนเหนียวปนทราย ดินร่วนเหนียว และ ดินร่วนปนทราย ที่ pH 4, 7 และ 10 และ ในสภาวะที่มีไอออนลบฟอสเฟตอยู่ร่วมด้วย โดยทำการทดลองแบบต่อเนื่องโดยให้สาร ละลายอาร์เซนิคไหลผ่านคอลัมภ์ดินในทิศทางไหลขึ้นที่อัตราเร็ว 15 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง จากการทดลองพบว่าอาร์เซไนท์สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดในดินทรายร่วน รองลงมาคือในดินร่วนเหนียวปนทราย และ ช้าที่สุดในดินร่วนเหนียว และเมื่อมีไอออนฟอสเฟตร่วมด้วยในสารละลาย พบว่า ไอออนฟอสเฟตทำให้การเคลื่อนที่ของอาร์เซไนท์ผ่านคอลัมภ์ดินเร็วขึ้นมาก สำหรับ การเคลื่อนที่ของอาร์เซเนต อาร์เซเนต สามารถเคลื่อนที่ได้ช้าที่สุดผ่านคอลัมน์ดินร่วนเหนียวปนทราย และคอลัมน์ที่มีไอออนลบพบว่าฟอสเฟตทำให้การเคลื่อนที่ ของอาร์เซเนตผ่านคอลัมภ์ดินเร็วขึ้นมากและเมื่อเปรียบเทียบระหว่างอารีเซไนท์และอาร์เซเนต พบว่าที่ pH 4 ความเร็วในการเคลื่อนที่ผ่านคอลัมภ์ดินร่วนเหนียวใกล้เคียง กัน แต่ที่พีเอช 7 และ ไ0 พบว่า อารีเซไนท์เคลื่อนที่ได้ช้ากว่าอารีเซเนต


การกำจัดโครเมียมในน้ำเสียจากโรงงานฟอกหนังโดยวิธีการดูดซับทางชีวภาพ ด้วยพืชใบเลี้ยงคู่และพืชใบเลี้ยงเดี่ยว, พันธวัศ สัมพันธ์พานิช Jan 2026

การกำจัดโครเมียมในน้ำเสียจากโรงงานฟอกหนังโดยวิธีการดูดซับทางชีวภาพ ด้วยพืชใบเลี้ยงคู่และพืชใบเลี้ยงเดี่ยว, พันธวัศ สัมพันธ์พานิช

Applied Environmental Research

การทดสอบความสามารถของการใช้วัชพืชที่พบในประเทศไทย เป็นการศึกษาการใช้เทคโนโลยีในการพื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ปนเปื้อนโครเมียมในน้ำ การศึกษาเริ่มด้วยการสำรวจบริเวณพื้นที่โรงงานฟอกหนัง เพื่อคัดเลือกวัชพืชที่มีความสามารถบนพื้นฐานการสะสมโครเมียมสูงสุด วัชพืช 4 ชนิดที่ คัดเลือกใช้ในการศึกษาสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ 1) กลุ่มพืชใบเลี้ยงคู่ ได้แก่ ต้นก้างปลา (Phyllanthus reticulates) และต้นขลู่ (Pluchea indica) และ 2) กลุ่มพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ได้แก่ หญ้าข้าวนก (Echinochloa colonum) และหญ้าแพรก (Cynodon dactylon) ซึ่งวัชพืชดังกล่าวที่ ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้เก็บรวบรวมมาจากพื้นที่ที่ไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักโดยเฉพาะการปนเปื้อนจากโครเมียมในพื้นที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนำมาทำให้อยู่ในรูปของมวลชีวภาพ และทำการศึกษาบนแบตซ์ไอโซเทอม และการศึกษาบนคอลัมน์ โดยใช้น้ำเสียสังเคราะห์ที่มีความเข้มข้นของเฮกซะวาเลนท์โครเมียมเท่ากับ 50 มก./ล. ในการศึกษาพบว่า ใบของต้นก้างปลา ต้นขลู่ หญ้าข้าวนก และ หญ้าแพรก มีความสามารถในการดูดซับเฮกซะวาเลนท์โครเมียมสูงสุดเท่ากับ 53, 45, 37 และ 34 มก./ก.มวลชีวภาพ ที่ pH 2 ณ เวลาสมดุลที่ 24 ชม. นอกจากนี้ยังพบว่า ใบของมวลชีวภาพของวัชพืชทั้ง 4 ชนิดมี ความสามารถในการดูดซับโครเมียมดีที่สุด โดยเฉพาะใบของต้นขลู่มีความสามารถในการดูดซับเฮกซะวาเลนท์โครเมียมสูงสุด เท่ากับ 51.3 มก./ก.มวลชีวภาพที่ pH 2 ณ เวลาสมดุลที่ 102 ชม. อัตราการไหล 1.3 มล./นาที


ผลกระทบของเอทานอลต่อสภาพการละลายน้ำของสารอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน, อุสารัตน์ ถาวรชัยสิทธิ์, กลิ่นสุคนธ์ สุวรรณรัตน์, พัชรินทร์ วัชรสุขกิจไพศาล, ยุพดี บรรจงกิจ, สุวัฒน์ สูงเลิศส่งฟ้า Jan 2026

ผลกระทบของเอทานอลต่อสภาพการละลายน้ำของสารอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน, อุสารัตน์ ถาวรชัยสิทธิ์, กลิ่นสุคนธ์ สุวรรณรัตน์, พัชรินทร์ วัชรสุขกิจไพศาล, ยุพดี บรรจงกิจ, สุวัฒน์ สูงเลิศส่งฟ้า

Applied Environmental Research

งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาถึงผลของเอทานอลต่อความสามารถในการละลายน้ำของสารโมโนอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนใน กลุ่ม BTEX ซึ่งประกอบด้วยเบนซีนโทลูอีน เอทิลเบนซีน และไซลีนทั้ง 3 ไอโซเมอร์ทำการทดลองโดยเพิ่มอัตราส่วนโดยปริมาตรของเอทานอลในสารละลายผสมระหว่างสารไฮโดรคาร์บอนบริสุทธิ์ น้ำ และ เอทานอลให้มีค่าจาก 0% เป็น 25% ตามลำดับ พบว่าความเข้มข้นของ BTEX ในชั้นน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณของเอทานอลในระบบมีค่าเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 25% โดยเปอร์เซ็นต์การละลายน้ำมีค่าสูงขึ้นถึง 73%, 120%, 140%, 151%, และ 166 %สำหรับเบนซีน โทลูอีน เอทิลเบนซีน ไซลีน (meta+para) และไซลีน (ortho) ตาม ลำดับ เมื่อพิจารณาเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้น ของสภาพการละลายน้ำสำหรับสารแต่ละตัวในกลุ่ม BTEX ในสภาวะที่มีเอทานอลเทียบกับสภาพการละลายน้ำในสภาวะที่ไม่มีเอทานอล พบว่าเปอร์เซ็นต์การละลายน้ำที่เพิ่มขึ้นแปรผกผันกับขนาดของ โมเลกุล ดังจะเห็นได้จากเปอร์เซนต์การเพิ่มขึ้นของค่าการละลายน้ำในสภาวะที่มีเอทานอลเป็นตัวทำละลายร่วมในระบบสำหรับไซลีนทั้งสามไอโซเมอร์และเอทิล เบนซีนมีค่าใกล้เคียงกัน แต่มีค่ามากกว่าโทลูอีนและเบนซีน ตามลำดับ ผลงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเอทานอลสามารถเพิ่ม ปริมาณการปนเปื้อนของ BTEX ในน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน ในกรณีที่มีการรั่วไหลของ แก๊สโซฮอล์หรือการรั่วไหลของเอทานอล ร่วมกับ BTEX ลงสู่น้ำผิวดินหรือน้ำใต้ดิน


Property Of Lignite Fly Ash As A Substitute Of Lime Materials And Ammonia Reduction In Water, Chumlong Arunlertaree Jan 2026

Property Of Lignite Fly Ash As A Substitute Of Lime Materials And Ammonia Reduction In Water, Chumlong Arunlertaree

Applied Environmental Research

The present study investigates the use of lignite fly ash as a chemical to improve water quality in place of liming material. Two experiments were performed with freshwater and synthetic seawater. Improvement of water quality were measured by using pH and ammonia. The neutralizing value and the application rate of fly ash were studied. The results of the study indicate that the neutralizing value of fly ash is 70%, comparing to standard pure CaCO3 100%. The optimal dosage of fly ash to remove ammonia was 1 g/L. The maximum ammonia removal efficiency at 24 hours in freshwater, 30 ppt, …


The Development Of Environmental Education Model "Kapp" Concerning Natural Energy With Evaluation Model Cippif Via Mixed Media, Chaiyuth Laohachanakoor Jan 2026

The Development Of Environmental Education Model "Kapp" Concerning Natural Energy With Evaluation Model Cippif Via Mixed Media, Chaiyuth Laohachanakoor

Applied Environmental Research

The objective of the research was to develop the environmental education in knowledge, attitude, practice and participation on model “KAPP” concerning the natural energy with the evaluation model “CIPPIF” via mixed media. This research is the semi -experiential research by using three specific media channels; television (Thai Army Channel 5), radio (Bangkok F.M 101.0 MHz.) and internet (http:/www. deptofeducaton.net). The production of material was produced and broadcasted according to cost and nature of media.
The audiences from the television, radio, and internet were randomly selected to join a participation activity seminar which was hold at the end of the research. …


การศึกษาอัตราส่วนความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ภายในและภายนอกอาคาร, อรุบล โชติพงศ์ Jan 2026

การศึกษาอัตราส่วนความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ภายในและภายนอกอาคาร, อรุบล โชติพงศ์

Applied Environmental Research

ในการศึกษาอัตราส่วนความเข้มข้น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ภายในและภายนอก อาคาร ได้ทำการศึกษาจากสถานีตรวจวัดที่ อยู่ในบริเวณเส้นทางจราจร เพื่อเปรียบเทียบความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ภายในและภายนอกอาคารบริเวณจุดที่อยู่ใกล้เส้นทางคมนาคม ในช่วงเวลา 8.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มีความเข้มข้นสูง ผลการตรวจวัด พบว่าอัตราส่วนความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ภายในและภายนอกอาคารทั้ง 4 สถานีที่ทำการศึกษา มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 0.43-0.77 โดยสถานีตรวจวัดบริเวณวัดชัยมงคลที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 1 ซึ่งเป็นถนนแคบมีอาคารสูงเรียงรายอยู่ทั้งสองฟากถนน และมีปริมาณการจราจรประมาณ 59,000 คัน/ชั่วโมง มีอัตราส่วนเข้มข้นก๊าซ คาร์บอนมอนอกไซด์ภายใน/ภายนอกอาคาร เท่ากับ 0.65 สถานีตรวจวัดที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 42 บางมด เป็นอาคารที่อยู่ไกลจากถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนที่กว้าง มี อาคารไม่หนาแน่นและมีปริมาณการจราจร ประมาณ 88,000 คัน/ชั่วโมง มีอัตราส่วนก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ภายใน/ภายนอกอาคารเท่ากับ 0.48 ขณะที่สถานีตรวจวัดที่มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกตึกชัย มีถนนพระราม 6 และ ถนนราชวิถีขนาบทั้งสองด้าน และมีทางด่วนคร่อมทับบนถนนพระราม 6 อีกชั้นหนึ่ง มีปริมาณการจราจรผ่านบริเวณนี้ทั้งหมด ประมาณ 136,395 คัน/ชั่วโมง พบว่ามีอัตราส่วนความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ภายใน/ภายนอกอาคารเท่ากับ 0.77 ซึ่งสูง กว่าทุกบริเวณที่ทำการตรวจวัด ส่วนสถานีตรวจวัดที่โรงเรียนปวโรฬารซึ่งมีปริมาณการจราจรประมาณ 63,700 คัน/ชั่วโมง มีอัตราส่วนความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ภายใน/ภายนอกเท่ากับ 0.43 ซึ่งน้อยกว่าทุกสถานี แม้ว่าสถานีตรวจวัดอยู่ห่างจากถนนเพียง 1 เมตรก็ตาม แต่มีรั้ว โรงเรียนที่สูงกั้นระหว่างถนนกับอาคารโรงเรียนจึงทำให้การแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าสู่บริเวณภายในได้น้อยลง และจากการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Varience) ของความเข้มข้น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ไนทุกสถานีที่ทำการ ตรวจวัดพบว่า ความเข้มข้นก๊าซคาร์บอนมอ นอกไซด์โดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันระหว่างภายในและภายนอกอาคาร แต่ไม่มีความ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างช่วง เวลาที่ตรวจวัด


Learning To Be Trauma-Informed: An Examination Of Individual-Level Factors Predicting Perceptions Of And Response To Trauma-Informed Practice Trainings, Kelly Daniel Dec 2025

Learning To Be Trauma-Informed: An Examination Of Individual-Level Factors Predicting Perceptions Of And Response To Trauma-Informed Practice Trainings, Kelly Daniel

Electronic Theses and Dissertations

Trauma is a substantial threat to public health. As such, significant effort has been exerted into developing interventions which mitigate the consequences of trauma. Trauma-informed practice (TIP) aims to alleviate the effects of trauma by building policies and practices focused on safety, trust, transparency, support, collaboration, and empowerment. This study investigated how individual-level factors, including readiness for organizational change, perceived benefit of TIP training, and personal trauma history affect one’s ability to apply a TIP lens in a sample (n =100) of members of a graduate-level college. Further, it explored if one’s perceptions of and response to trauma-informed practice training …


More Alike Than Not: The Open Access Preferences Of Humanities Scholars, Rachel E. Scott, Ana Dubnjakovic Nov 2025

More Alike Than Not: The Open Access Preferences Of Humanities Scholars, Rachel E. Scott, Ana Dubnjakovic

Faculty and Staff Publications – Milner Library

Several studies have noted that humanists have not been as quick or enthusiastic in their adoption of Open Access (OA) as their colleagues in other disciplines. This article leverages the Ithaka S+R US 2021 Faculty Survey to provide contextualized analysis of the OA and Open Education Resources (OER) preferences of humanities scholars, as well as some practices related to OA and OER, relative to their colleagues in other disciplines. Findings suggest that although humanists do stand apart in many OA preferences, the small effect sizes render these differences less important than previously suspected. The implications of these findings are considered …


Association Between Decisional Conflict And Quality Of Life Among Parents With A Child Undergoing Hospital-Based Treatment For A Recent Cancer Diagnosis, Augustine Provencio Sep 2025

Association Between Decisional Conflict And Quality Of Life Among Parents With A Child Undergoing Hospital-Based Treatment For A Recent Cancer Diagnosis, Augustine Provencio

Doctoral Dissertations

Having a child with a chronic illness, such as cancer, can cause families significant distress. Parents of these children must make frequent decisions relating to their child’s care. Depending on factors such as health literacy and support from medical staff, parents may have varying levels of decisional conflict (DC) throughout the decision-making process. Compounding stress throughout their child’s illness can often contribute to lower levels of health-related quality of life (HRQoL) while their child is receiving hospital-based treatment. Parents with a non-English language preference (NELP) often have greater challenges navigating healthcare systems due to a lack of resources and limited …


Effectiveness Of Academic Library Research Guides For Building College Students’ Information Literacy Skills: A Scoping Review, Erica Defrain, Leslie Sult, Nicole F. Pagowsky Sep 2025

Effectiveness Of Academic Library Research Guides For Building College Students’ Information Literacy Skills: A Scoping Review, Erica Defrain, Leslie Sult, Nicole F. Pagowsky

UNL Libraries: Faculty Publications

Academic library research guides, ubiquitous tools for teaching information literacy, lack robust evidence for their effectiveness. This scoping review considered 1,724 publications, ultimately reporting on findings from 61 studies meeting inclusion criteria. Studies reviewed were highly individualized and primarily exploratory and correlational, with most using mixed methods designs analyzing data from student surveys and web traffic sources. Most studies focused on student satisfaction or guide usability as indicators of learning effectiveness, with few assessments of skills acquisition. We undertook this scoping review to assist practitioners in developing more impactful learning tools and practices as they create and assess guides.


An Analysis Of Hybrid/Remote Work Eligibility In Academic Librarian Job Advertisements, Ruth S. Connell, Meris Mandernach Longmeier Jul 2025

An Analysis Of Hybrid/Remote Work Eligibility In Academic Librarian Job Advertisements, Ruth S. Connell, Meris Mandernach Longmeier

Library Faculty Publications

This paper seeks to capture changing policies and approaches to hybrid and remote work in academic libraries following the COVID-19 pandemic. For this study, job advertisements were gathered and those hiring managers surveyed. Results show hybrid/remote positions have competitive salaries, many types of academic library positions have hybrid eligibility, and campus and library policies regarding hybrid/remote work and their inclusion in job postings continue to evolve. Despite the potential recruitment benefits of these flexible work arrangements, many who offer them are not including this information in their job advertisements; therefore, job candidates should ask or negotiate for this benefit.


A Comprehensive Study Of Library-Led Textbook Affordability Initiatives In The United States, Mitchell Scott, Rachel E. Scott Jul 2025

A Comprehensive Study Of Library-Led Textbook Affordability Initiatives In The United States, Mitchell Scott, Rachel E. Scott

Faculty and Staff Publications – Milner Library

This study presents findings from a survey and interviews investigating library-led textbook affordability initiatives in the United States. The results document diverse considerations and divergences in workflows, challenges librarians face in establishing and maintaining textbook affordability programs, and the intersection of these initiatives with library and institutional strategies. Findings suggest that these programs have grown in number and scale over the past few years, accelerated by the COVID-19 pandemic lockdowns, and are sustained—even without permanent, designated funding—due to consistently positive perceptions about their impact on student success, just-in-time delivery, and alignment with library and institutional goals.


การเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำของตะกอนโดยใช้กระบวนการแอดวานซ์ออกซิเดชั่น (Improvement Of Dewaterability Of Sludge Using Advanced Oxidation Processes)", ปาริฉัตร มาลีวงษ์, สุธา ขาวเธียร Jul 2025

การเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำของตะกอนโดยใช้กระบวนการแอดวานซ์ออกซิเดชั่น (Improvement Of Dewaterability Of Sludge Using Advanced Oxidation Processes)", ปาริฉัตร มาลีวงษ์, สุธา ขาวเธียร

Applied Environmental Research

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาประสิทธิภาพการรีดน้ำของตะกอนน้ำเสียชุมชนโดยใช้กระบวนการแอดวานซ์ออกซิเดชั่น 2 วิธีซึ่งได้แก่ การเติมสารเคมีของเฟนตันและการใช้แสงอัลตร้าไวโอเลตร่วมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ดัชนีที่ใช้วัดประสิทธิภาพการรีดน้ำของตะกอนได้แก่ ค่าความต้านทานจำเพาะของตะกอน และปริมาณน้ำในตะกอนที่ถูกรีดออก การทดลองได้กำหนดปัจจัยที่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการรีดน้ำของตะกอนเพื่อศึกษาหาสภาวะที่เหมาะสมที่สุด สำหรับวิธีการเติมสารเคมีของเฟนตันปัจจัยดังกล่าวได้แก่ อัตราส่วนความเข้มข้นของเฟอรัสไอออนต่อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Fe2+:H2O2) ค่าพีเอช และเวลาในการทำปฏิกิริยา สำหรับวิธีการใช้แสงอัลตราไวโอเลตร่วมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ปัจจัยดังกล่าวได้แก่ ค่าพีเอช เวลาในการทำปฏิกิริยา และปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ผลการศึกษาสำหรับวิธี การเติมสารเคมีของเฟนตันพบว่าที่อัตราส่วนความเข้มข้น Fe2+:H2O2 เท่ากับ 2:1 ค่าพีเอชในช่วง 3-5 และ เวลาในการทำปฏิกิริยาเท่ากับ 10 นาทีจะให้ค่าประสิทธิภาพการรีดน้ำที่เหมาะสมที่สุด ส่วนผลของวิธีการ ใช้แสงอัลตราไวโอเลตร่วมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ระบุว่าที่ปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เท่ากับ 100% ซีโอดีโดยน้ำหนัก ค่าพีเอชในช่วง 3-5 และเวลาในการทำปฏิกิริยาเท่ากับ 30 นาทีมีประสิทธิภาพในการ รีดน้ำดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของทั้งสองวิธีที่ปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เท่ากันพบว่าที่พีเอชในช่วง 3-5 ทั้งสองวิธีให้ประสิทธิภาพการรีดน้ำดีที่สุดโดยวิธีเติมสารเคมีของเฟนตันมีประสิทธิภาพสูงกว่า และเมื่อค่าพีเอชเพิ่มขึ้นกลับพบว่าตะกอนที่ผ่านวิธีการใช้แสงยูวีร่วมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มี แนวโนัมที่จะสามารถรีดน้ำได้ดีกว่าวิธีเติมสารเคมีของเฟนตัน